วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559
คำถาม: พระเยซูคริสต์เป็นใคร?
คำตอบ: พระเยซูคริสต์เป็นใคร? ไม่เหมืิอนกับคำถามที่ว่า “พระเจ้ามีอยู่จริงไหม?” น้อยคนจะถามว่าพระเยซูคริสต์มีอ ยู่จริงไหม โดยทั่วไปผู้คนยอมรัับว่าพระเยซ ูคริสต์ทรงเป็นมนุษย์และทรงอยู่ ในโลกนี้ที่ประเทศอิสราเอลเมื่อ เกือบ2000 ปีที่ผ่านมา การถกเกิดขึ้นเมื่อหลักฐานแสดงต ัวตนของพระองค์ถูกนำมาอภิปราย เกือบทุกศาสนามีหลักสอนว่าพระเย ซูคืิอผู้เผยพระวจนะ หรืออาจารย์ที่ดี หรือคนที่เคร่งศาสนา ปัญหาคือ พระคัีมภีร์บอกเราว่าพระเยซูทรง เป็นมากกว่าผู้เผยพระวจนะ หรืออาจารย์ที่ดี หรือคนที่เคร่งศาสนาคนหนึ่ง
C.S. Lewis ผู้เขียนหนังสือ ชื่่อ คริสเตียนธรรมดา (Mere Christianity) เขียนว่า “ข้่าพเจ้าพยายามที่จะไม่ให้ใคร ๆ พูดอะไรโ่ง่ ๆ ที่คนชอบพูดกันเกี่ยวกับพระองค์ (พระเยซูคริสต์): เช่นว่า ฉัีนพร้อมที่จะยอมรับพระเยซูว่า เป็นผู้สอนทางด้านคุณธรรมที่ดี แต่รับไม่ได้กับการอ้างว่าทรงเป ็นพระ
เจ้า” นี่เป็นอะไรที่เราไม่ควรพูด เพราะหากคนธรรมดา ๆ จะพูดอะไร ๆ
มากมายหลายอย่าง อย่างที่พระเยซูคริสต์ตรัีส ไม่น่าจะเป็นอาจารย์ที่ดีได้
แต่น่าจะเป็นคนบ้ามากกว่า -- ระดับเดียวกับคนที่พูดว่าตัวเอง เป็นไข่ต้ม -- หรือไม่ก็เป็นมารซาตานมาจากนรก คุณต้องเลือก หากพระองค์ไม่ใช่พระบุตรของพระเ จ้า ก็จะต้องเป็นคนบ้าหรืออะไรที่แย ่ยิ่งกว่านั้น… คุณสามารถมองว่าพระองค์ทรงเป็นค นโง่คนบ้่าคนหนึ่ง ถ่มน้ำลายรดพระองค์ แล้วปลงพระชนม์พระองค์ในฐานะมาร ซาตาน หรือซบลงแทบพระบาทของพระองค์แล้ วเรียกพระองค์ว่าองค์พระผู้เป็น เจ้า แต่อย่าทำมาเป็นพูดเหลวไหลเลยว่ าพระองค์ทรงเป็นอาจารย์ที่ดีคนห นึ่ง พระองค์ไม่ได้ให้ทรงเราเลือกแบบ นั้น และไม่ได้ทรงตั้งพระทัยเช่นนั้น ”
แล้วพระองค์ทรงอ้างว่าทรงเป็นผู ้ใด? พระคัมภีร์บอกว่าพระองค์ทรงเป็น ใคร? ประการแรกให้เราดูพระวจนะของพระ เยซูในหนังสือยอห์น 10:30 “เรากับพระบิดาของเราเป็นอันหนึ ่งอันเดียวกัน” เมื่อมองอย่างเผิน ๆ นี่อาจดูเหมือนว่าไม่ใช่การยอมร ับว่าทรงเป็นพระเจ้า แต่ ให้เรามาดูกันที่ปฎิกริยาของชาว ยิวต่อคำพูดประโยคนี้ “เราจะขว้างท่านมิใช่เพราะการกร ะทำดี แต่เพราะการพูดหมิ่นประมาท เพราะท่านเป็นเพียงมนุษย์แต่ตั้ งตัวเป็นพระเจ้า” (ยอห์น 10:33) คนยิวเข้าใจดีว่าคำกล่้าวของพระ เยซูคือการยอมรับว่าทรงเป็นพระเ จ้า ในข้อพระคัมภีร์ข้อต่อ ๆ มา พระเยซูไม่ได้ทรงแก้ไขคำพูดของช าวยิวโดยปฏิเสธว่า “เราไม่ได้อ้างตัวว่าเป็นพระเจ้ า” นั่นชี้ให้เห็นว่าพระเยซูตรัสว่ าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าโดยการปร ะกาศว่า “เรากับพระบิดาของเราเป็นอันหนึ ่งอันเดียวกัน” (ยอห์น 10:30) ยอห์น 8:58 เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ก่อนอับราฮัมบังเกิดมานั้นเราเป ็น” อีกครั้งหนึ่งที่พวกยิวตอบโต้พร ะองค์ด้วยการหยิบก้อนหินขึ้นมาจ ะขว้างพระองค์ (ยอห์น 8:59) การประกาศหลักฐานแสดงตัวตนของพร ะองค์ว่า “เราเป็น” คือการนำพระนามที่ใช้เรียกพระเจ ้าในพันธสัญญาเดิมมาใช้โดยตรง (อพยพ 3:14) ทำไมชาวยิวจึงต้องการเอาหินขว้า งพระองค์อีก หากพระองค์ไม่ได้ตรัสอะไรบางอย่ างที่พวกเขาคิดว่าเป็นการหมิ่นป ระมาทพระเจ้า ซึ่งก็คือ การอ้างพระองค์ว่าทรงเป็นพระเจ้ า?
ยอห์น 1:1 กล่าวว่า “พระวาทะทรงเป็นพระเจ้า” ยอห์น 1:14 กล่าวว่า “พระวาทะได้ทรงสภาพของเนื้อหนัง ” นี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพร ะเยซูทรงเป็นพระเจ้าในสภาพเนื้อ หนัง สาวกโธมัสประกาศต่อหน้าพระเยซูว ่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระอง ค์ และพระเจ้าของข้าพระองค์” และพระองค์ไม่ได้ทรงแก้ไขเขา อัครสาวกยอห์นอธิบายเกี่ยวกับพร ะองค์ว่า “….พระเจ้าใหญ่ยิ่ง และพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้ร อดของเรา” (ทิตัส 2:13) อัครสาวกเปโตรพูดอย่างเดียวกัน “…. พระเจ้าและพระเยซูคริสต์พระผู้ช ่วยให้รอดของเราทั้งหลาย” พระเจ้าพระบิดาก็ทรงเป็นพยานเกี ่ยวกับหลักฐานแสดงดัวตนของพระเย ซูคริสต์เช่นกัน พระองค์ตรัสว่า “โอ พระเจ้าข้า พระที่นั่งของพระองค์ดำรงเป็นนิ ตย์และเป็นนิตย์ ธารพระกรแห่งอาณาจักรของพระองค์ ก็เป็นธารพระกรเที่ยงธรรม” (สดุดี 45:6) คำเผยพระวจนะเกี่ยวกับพระเจ้าใน พันธสัญญาเดิมกล่าวถึงความเป็นพ ระเจ้าของพระองค์ว่า “ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเ รา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่ที่บ่าของท่า น และท่านจะเรียกนามของท่านว่า "ผู้ที่มหัศจรรย์ ที่ปรึกษา พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช" (อิสยาห์ 9:6)
C.S. Lewis ถกว่า การเลือกเชื่อว่าพระเยซูเป็นอาจ ารย์ที่ดีไม่ใช่ตัวเลือก เพราะพระองค์ประกาศอย่างชัดเจนโ ดยเราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าพระอ งค์
ทรงเป็นพระเจ้า ดังนั้น หากพระองค์ไม่ใช่พระเจ้า
พระองค์ก็จะต้องเป็นจอมโกหก หากพระองค์ทรงเป็นนักโกหก
พระองค์ก็จะต้องไม่ใช่ผู้เผยพระ วจนะ หรืออาจารย์ที่ดี หรือ คนที่เคร่งศาสนา แน่นอน ในความพยายามที่จะอธิบายเกี่ยวก ับพระเยซูของ “นักวิชาการ” สมัยใหม่ พวกเขาบอกว่า “พระเยซูองค์แท้จริงในประวัติศา สตร์” ไม่ได้ตรัสหลาย ๆ อย่างที่พระคัมภีร์พูดเกี่ยวกับ พระองค์ เราเป็นใครกันที่จะมาเถียงพระวจ นะของพระเจ้าเกี่ยวกับว่าพระเยซ ูตรัสและไม่ได้ตรัสอะไร “นักวิชาการ” ที่เกิดห่างจากพระเยซูตั้งสองพั นปีจะรู้ดีว่าพระองค์ตรัสหรือไม ่ได้ตรัสอะไรกว่าคนที่อยู่กับพร ะองค์ ปรนิบัติพระองค์ และ ได้รัีบการสอนจากพระองค์ได้อย่า งไร? (ยอห์น 14:26)?
ทำไมคำถามเกี่ยวกับหลักฐานที่พิ สูจน์ว่าพระเยซูทรงเป็นใครจึงสำ คัญ? ทำไม่ถึงการที่พระเยซูทรงเป็นพร ะเจ้าหรือไม่จึงเป็นเรื่องสำคัี ญ? เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือ พระเยซูจะต้องทรงเป็นพระเจ้า หากไม่ใช่ การสิ้นพระชนมฺ์ของพระองค์ก็คงจ ะไม่เพียงพอที่จะไถ่บาปให้กับคน ทั้งโลก (1 ยอห์น 2:2) มีพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียวเท่าน ั้นที่ทรงสามารถจ่ายค่าจ้างที่ไ ม่มีที่สิ้นสุดได้ (โรม 5:8; 2 โครินธ์ 5:21) พระเยซูจะต้องทรงเป็นพระเจ้าเพื ่อที่พระองค์จะได้ทรงไถ่บาปให้ก ับเราได้ พระองค์จะต้องทรงเป็นมนุษย์ เพื่อที่พระองค์จะทรงสิ้นพระชนม ์ได้ เราจะรับความรอดได้ก็โดยความเชื ่อในพระเยซูคริสต์เท่านั้น! ด้วยความเป็นพระเจ้าของพระองค์ค ือเหตุผลว่าทำไมพระองค์จึงทรงเป ็นทางเดียวที่นำเราไปสู่ความรอด ด้วยความเป็นพระเจ้าของพระองค์ค ือเหตุผลว่าทำไม่พระองค์จึงทรงป ระกาศว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจา กมาทางเรา” (ยอห์น 14:6)
/// เมื่อเรารู้ว่าพระเยซูเป็นแล้วคุณจะ รู้ว่าท่านสำคัญกับคุณและคนทั้ง โลกแน่นอนครับ ขอเพียงอ่านแล้วเปิดใจเราจึงเข้ าใจได้ครับ
คำตอบ: พระเยซูคริสต์เป็นใคร? ไม่เหมืิอนกับคำถามที่ว่า “พระเจ้ามีอยู่จริงไหม?” น้อยคนจะถามว่าพระเยซูคริสต์มีอ
C.S. Lewis ผู้เขียนหนังสือ ชื่่อ คริสเตียนธรรมดา (Mere Christianity) เขียนว่า “ข้่าพเจ้าพยายามที่จะไม่ให้ใคร
แล้วพระองค์ทรงอ้างว่าทรงเป็นผู
ยอห์น 1:1 กล่าวว่า “พระวาทะทรงเป็นพระเจ้า” ยอห์น 1:14 กล่าวว่า “พระวาทะได้ทรงสภาพของเนื้อหนัง
C.S. Lewis ถกว่า การเลือกเชื่อว่าพระเยซูเป็นอาจ
ทำไมคำถามเกี่ยวกับหลักฐานที่พิ
///
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
เกี่ยวกับฉัน
- คริสเตียนไทยรับใช้พระเจ้า
- พวกเราเป็นกลุ่มคริสตจักรท่มีความเชื่อตามหลักของพระคัมภีร์อย่างเคร่งครัด เราเชื่อว่า เรารอดโดยพระคุณพระเจ้า และเชื่อในตรีเอกานุภาพ และพระคัมภีร์66เล่มเป็นการดลใจจากพระเจ้าและไม่มีความผิดพลาดของต้นฉบับ และพระวจนะของพระเจ้าเป็นแหล่งชีวิตและความจริง เป็นหนังสือท่ช่วยในการดำเนินชีวิตประจำวัน เราเชื่อว่าเมื่อเราเชื่อในพระองค์เราได้รับองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ในทันใดนั้น เพราะทรงประทับตราเรา ( เอเฟซัส 1:13-14)