ขอบคุณสำหรับเรือ

ขอบคุณสำหรับเรือ

ลุยช่วยคนที่น้ำท่วม

ลุยช่วยคนที่น้ำท่วม
ระวังเรือล่มนะ

ช่วยเหลือพี่น้องที่น้ำท่วม

ช่วยเหลือพี่น้องที่น้ำท่วม
เราคนไทยไม่ทิ้งกัน

อย่าลืมอธิษฐานเผื่อพี่น้องอาข่านะครับ

อย่าลืมอธิษฐานเผื่อพี่น้องอาข่านะครับ
เราต้องการคำอธิษฐานเผื่อ

ภาพนี้ให้บทเรียนอะไรบ้าง

ภาพนี้ให้บทเรียนอะไรบ้าง
จะปลอบใจ หนุนใจ กันเถิด

หัวเหดหยัง

หัวเหดหยัง
อย่าเว้าเรื่องแฟนอายเผิน

การเลือกคู่ครองที่ถูกต้อง

การเลือกคู่ครองที่ถูกต้อง
อย่าเทียมแอกกับคนไม่เชื่อ

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หอพักพระกรุณาธิคุณ เชียงราย บ้านป่าซาง อ.แม่ลาว


วันนี้ที่เชียงราย





จากวันวานที่ผ่านมา








คำสอนเรื่องครอบครัว The Teaching about family life


 Ephesian เอเฟซัส 5:21-33  ( สามีและภรรยา-Husband & Wife )
21จงยอมฟังกันและกันด้วยความเคารพในพระคริสต์ 22ฝ่ายภรรยา   จงยอมฟังสามีของตน   เหมือนยอมฟังองค์พระผู้เป็นเจ้า 23เพราะว่าสามีเป็นศีรษะของภรรยา   เหมือนพระคริสต์ทรงเป็นศีรษะของคริสตจักร   ซึ่งเป็นพระกายของพระองค์   และพระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคริสตจักร 24คริสตจักรยอมฟังพระคริสต์ฉันใด   ภรรยาก็ควรยอมฟังสามีทุกประการฉันนั้น 25ฝ่ายสามีก็จงรักภรรยาของตน   เหมือนอย่างที่พระคริสต์ทรงรักคริสตจักร   และทรงประทานพระองค์เองเพื่อคริสตจักร 26เพื่อจะได้ทรงทำให้คริสตจักรบริสุทธิ์   โดยการทรงชำระด้วยน้ำและพระวจนะ 27เพื่อพระองค์จะได้มีคริสตจักรที่มีสง่าราศี   ไม่มีตำหนิริ้วรอย   หรือมลทินใดๆเลย   แต่บริสุทธิ์ปราศจากตำหนิ 28เช่นนั้นแหละ   สามีจึงควรจะรักภรรยาของตนเหมือนกับรักกายของตนเอง   ผู้ที่รักภรรยาของตนก็รักตนเอง 29เพราะว่าไม่มีผู้ใดเกลียดชังเนื้อหนังของตนเอง   มีแต่เลี้ยงดูและทนุถนอม   เหมือนพระคริสต์ทรงกระทำแก่คริสตจักร 30เพราะว่าเราเป็นอวัยวะแห่งพระกายของพระองค์ 31เพราะเหตุนี้  ผู้ชายจึงจะละบิดามารดาของตน   ไปผูกพันอยู่กับภรรยา   และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้ออันเดียวกัน 32ความจริงที่ฝังอยู่ในข้อนี้สำคัญ   ส่วนข้าพเจ้า   ข้าพเจ้าเข้าใจว่าหมายถึงพระคริสต์และคริสตจักร 33ถึงอย่างไรก็ดี   ท่านทุกคนจงต่างก็รักภรรยาของตนเหมือนรักตนเอง   และภรรยาก็จงยำเกรงสามีของตน

 21Be subject to one another out of reverence for Christ. 22Wives, be subject to your husbands, as to the Lord. 23For the husband is the head of the wife as Christ is the head of the church, his body, and is himself its Savior. 24As the church is subject to Christ, so let wives also be subject in everything to their husbands. 25Husbands, love your wives, as Christ loved the church and gave himself up for her, 26that he might sanctify her, having cleansed her by the washing of water with the word, 27that he might present the church to himself in splendor, without spot or wrinkle or any such thing, that she might be holy and without blemish. 28Even so husbands should love their wives as their own bodies. He who loves his wife loves himself. 29For no man ever hates his own flesh, but nourishes and cherishes it, as Christ does the church, 30because we are members of his body. 31"For this reason a man shall leave his father and mother and be joined to his wife, and the two shall become one flesh." 32This mystery is a profound one, and I am saying that it refers to Christ and the church; 33however, let each one of you love his wife as himself, and let the wife see that she respects her husband.





/// Obey for Wife ภรรยาจงเชื่อฟังสามี (เพราะไม่เชื่อฟัง)
/// Love for Husband  สามีจงรักภรรยา (เพราะไม่น่ารัก)



2  Timothy - ทิโมธี 3:14-17

14แต่ฝ่ายท่านจงดำเนินต่อไปในสิ่งที่ท่านเรียนรู้แล้วและได้เชื่ออย่างมั่นคง   ท่านก็รู้ว่าท่านได้เรียนมาจากผู้ใด 15และตั้งแต่เด็กมาแล้ว   ที่ท่านได้รู้พระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์   ซึ่งสามารถสอนท่านให้ถึงความรอดได้โดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์ 16พระคัมภีร์   ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า  และ(หรือ   ทุกตอนที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้า   ก็) เป็นประโยชน์ในการสอน   การตักเตือนว่ากล่าว   การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี   และการอบรมในทางธรรม 17เพื่อคนของพระเจ้าจะพรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง
 14But as for you, continue in what you have learned and have firmly believed, knowing from whom you learned it 15and how from childhood you have been acquainted with the sacred writings which are able to instruct you for salvation through faith in Christ Jesus. 16All scripture is inspired by God and profitable for teaching, for reproof, for correction, and for training in righteousness, 17that the man of God may be complete, equipped for every good work.


/// ใครเป็นทิโมธีในบ้านของคุณ ในคริสตจักรของคุณ
     who is Timothy in your House and Church
/// ใครเป็นคนสร้างผู้รับใช้
     who is Teaching and Training the Servant

The word of God is perfect พระวจนะของพระเจ้าสมบูรณ์แบบ


 Psalm - สดุดี 19:7-11
 7กฎหมายของพระเจ้ารอบคอบ  
 และฟื้นฟูจิตวิญญาณ  
 กฎเกณฑ์ของพระเจ้านั้นแน่นอน  
 กระทำให้คนรู้น้อยมีปัญญา  
 8ข้อบังคับของพระเจ้านั้นถูกต้อง  
 กระทำให้จิตใจเปรมปรีดิ์  
 พระบัญญัติของพระเจ้านั้นบริสุทธิ์  
 กระทำให้ดวงตากระจ่างแจ้ง  
 9ความยำเกรงพระเจ้านั้นสะอาดหมดจด  
 ถาวรเป็นนิตย์  
 กฎหมายของพระเจ้าก็สัตย์จริง  
 และชอบธรรมทั้งสิ้น  
 10น่าปรารถนามากกว่าทองคำ  
 ยิ่งกว่าทองนพคุณมากนัก  
 หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง  
 ที่หยดลงจากรวง  
 11อนึ่ง  สิ่งเหล่านี้เป็นที่ตักเตือนผู้รับใช้ของพระองค์  
 การที่จะรักษาข้อความเหล่านั้นก็ได้บำเหน็จอันใหญ่ยิ่ง  

 7Its rising is from the end of the heavens, and its circuit to the end of them; and there is nothing hid from its heat. 8The law of the LORD is perfect, reviving the soul; the testimony of the LORD is sure, making wise the simple; 9the precepts of the LORD are right, rejoicing the heart; the commandment of the LORD is pure, enlightening the eyes; 10the fear of the LORD is clean, enduring for ever; the ordinances of the LORD are true, and righteous altogether. 11More to be desired are they than gold, even much fine gold; sweeter also than honey and drippings of the honeycomb

พระเยซูเป็นใครในชีวิตคุณ who is Jesus in your life

I am your Lord - เราเป็นพระเจ้าของเจ้า
I am your King - เราเป็นกษัตริย์ของเจ้า
I am your Master - เราเป็นเจ้านายของเจ้า

จงรับใช้เราเถิด Serve me


จงจับคนเหมือนจับปลา
จงหาคนเหมือนหาปลา
จงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติให้เป็นสาวกของเราไม่ใช่แค่เป้นคริสเตียน
จงสร้างคนให้เป้นผู้รับใช้ไม่ใช่ผู้รับจ้าง
จงใช้พระวจนะแห่งความจริงอย่างถูกต้องไม่ใช่แค่ถูก
จงสอนสิ่งสารพัดเหล่านี้ที่เราสั่งเจ้าไว้ ไม่ใช่สิ่งที่เราสอนเอง
จงฟังพระเยซู จงฟังพระเยซูเตือน จงฟังพระเยซูแนะนำ


บทเรียนบัพติศมา



                                                                  บทเรียนบัพติศมา
- จุดประสงค์เพื่อให้ให้คริสเตียนเข้าใจพิธีบัพติศมาและเตรียมตัวเตรียมพร้อมในกาติดตามพระเจ้า
1. คำนำ ..... มีพิธีที่สำคัญมากสองอย่างของคริสเตียน คือ บัพติศมาและมหาสนิท
                   มีหลายคนไม่ยอมรับบัพติศมา มีหลายคนไม่เข้าใจบัพติศมา บางคนรับแบบผิดๆ
                    เช่น เพื่อเป็นคริสเตียน,เพื่อความรอด,เพื่อรับของประทาน,เพื่อ อื่นๆ

2. บทเรียนบัพติศมา
       2.1- ความหมายของพิธีบัพติศมา
                   - ความหมายของชาวยิวสมัยพระเยซู  มธ.3.1-12
                            คือ การสำนึกว่าเป็นคนบาปและสารภาพผิดพร้อมกลับใจ  ข.4-5
                            คือ การเตรียมใจของประชาชนเพื่อให้กลับใจจากบาปและรอรับการชำระจากพระเยซู ข.7-12
                                       - คือ ล้างบาปไม่ได้,ช่วยให้รอดไม่ได้,แต่เตรียมใจล้างใจ เตรียมความคิดให้รับพระเยซู
                                       ( กจ.18.24-28 19.1-7)
                                       - คือ ยอห์นเป็นผู้เตรียมทาง,ปูทาง,นำทาง,แต่ไม่ใช่เป็นหนทางเหมือนพระเยซู ยน.14.6
                                                แต่ท่านเป็นเพียงผู้ชี้ทางและนำคนให้รู้จักกับพระเยซู
                   - ความหมายของชาวยิวหลังจากพระเยซูทรงพื้นขี้น  กจ.2.1- 42
                            คือ การสำนึกว่าตนเองเป็นคนบาปและยอมรับว่าพระเยซูคือผู้ไถ่ ข.37-42
                            คือ การรับเชื่อ โดยการยอมรับพระเยซและเป็นการละทิ้งศาสนาเดิม  ข.37
                            คือ การแสดงความเชื่อแท้ต่อหน้าสาธารณะชน
                    - ความหมายของคริสเตียนปัจจุบันนี้ โรม 6.1-4  คส.2.12
                            คือ การติดตามและติดสนิทกับพระเจ้าและการฝังชีวิตเก่าไว้กับพระองค์
                            คือ การสำแดงผลของความเชื่อที่แท้จริง
                                        *** มีบัพติศมา 2 อย่าง คือ บัพติศมาแห้ง กับบัพติศมาเปียก 1คร.12.13
                                       *** ความเข้าใจผิดเรื่องบัพติศมา
                                                    1. บัพติศมาเพื่อจะรอด หรือ เป็นคริสเตียน  1ปต.3.20-21
                                                            เช่น  กจ.8.4-24 ซีโมน  1คร.1.17-18 เปาโลบอกไม่ช่วยให้รอดได้
                                                    2. บัพติศมาเพื่อรับพระวิญญาณและของประทาน
                                                             เช่น  กจ.2.38 8.15-19 มธ.3.11 1คร.12.13 บัพติศมาด้วยพระวิญญาณ
                                                    3. บัพติศมาเพื่อเป็นลูกของพระเจ้า
                                                              เช่น คาทอลิกรับบัพติศมาให้เด็กเพื่อให้เด็กเป็นลูกพระเจ้าและล้างบาป
                                                                      *** ไม่ถูกต้องเพราะเด็กรู้เรื่องบาปและความรับผิดชอบต่อบาป
              สรุป..... บัพติศมาคือการที่คริสเตียนได้แสดงความเชื่อและฝังชีวิตเก่าและฟื้นขึ้นมีชีวิตใหม่กับพระเยซู
                            ไม่ใช่เพื่อรับความรอดหรือพระวิญญาณและของประทานอื่นๆ

บทเรียนบัพติศมา 2
- จุดประสงค์..... เพื่อให้สมาชิกเข้าใจความหมายของพิธีบัพติศมาและตัดสินใจรับอย่างถูกต้อง
- คำนำ ..... ทบทวนความหมายของพิธีบัพติศมา มี สามความหมาย
                       1. ความหมายสมัยยอห์น คือ ภาพการชำระมลทินเพื่อการนำและชี้ทางเตรียมใจรับพระเยซู
                       2. ความหมายสมัยคริสตจักรยุคแรก คือ การเลือกเชื่อและทิ้งศาสนาเดิมและอยู่ฝ่ายพระเยซู
                       3. ความหมายของคริสเตียนปัจจุบัน คือ การทิ้งฝังตัวเก่าและฟื้นขึ้นดำเนินชีวิตใหม่กับพระเยซู
                                *** ไม่ใช่เพื่อเป็นคริสเตียน หรือ เพื่อรับความรอด แต่เป็นผลของความเชื่อ
- เรื่องนำเสนอ ..... เหตุผลทำไมเรารับบัพติศมา 
        1. เพราะเป็นคำสั่งของพระเจ้า  
               ( มธ.28.19 มก.16.15-16 กจ.2.38 ,41 8.12-13 34-39 9.1810.47-4816.31-3319.5)
               - ผู้เชื่อต้องยอมรับคำสั่งและข้อเสนอเพื่อแสดงการเชื่อฟังและจงรักภักดีต่อพระเจ้า
               - ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะไม่ทำตามคำสั่งของพระเจ้าเพราะสำคัญและการสมัครใจรับบัพติศมา
               - ในพระคัมภีร์ไม่มีใคร ต่อต้าน หรือ ไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระเยซู
        2. เพราะเป็นการสำแดงและประกาศความเชื่อแท้ของคริสเตียน
               - ผู้เชื่อสมัยก่อนเป็นการประกาศตัวว่าเชื่อพระเยซูและทิ้งความเชื่อเดิม
               - ผู้เชื่อสมัยก่อนผู้รับบัพติศมาต้องยอมถูกข่มเหงและยอมตาม
               - ผู้เชื่อปัจจุบันเพื่อประกาศความเชื่อแท้และยอมติดตามพระเจ้าและทิ้งชีวิตเก่า
               - ผู้เชื่อปัจจุบันเพื่อประกาศและเป็นพยานเพื่อพระเจ้า
        3. เพราะเป็นขบวนการที่เข้าสู่การเป็นสมาชิกคริสตจักรที่สมบูรณ์
                - เพื่อเขาจะเป็นสมาชิกของคริสตจักรท้องถิ่นอย่างสมบูรณ์มีสิทธิ์ออกเสียง
                - เพื่อเขาจะเหมาะสมที่จะเข้าร่วมพิธีศิลมหาสนิทและซาบซื้งเมื่อเข้าใจความหมายแท้
                - เพื่อเขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในฝ่ายจิตวิญญาณ หรือ เลื่อนระดับอีกขั้นหนึ่ง
                - เพื่อเขาจะรู้สึกภูมิใจในการติดตามพระเจ้าและเข้าสนิทกับพระเยซู
           
             *** ทำไมคริสเตียนบางคนไม่ยอมรับบัพติศมา
                     1. เพราะยังไม่เชื่อจริงๆ
                     2. เพราะยังไม่รู้และไม่เข้าใจ
                     3. เพราะเข้าใจผิด เช่น กลัวกินเหล้า หรือ ทำบาปอีกไม่ได้
                     4. เพราะเชื่อแต่ยังไม่รับเชื่อ คือ ไม่กล้ายอมรับพระเยซูต่อหน้าคนอื่น
                     5. เพราะบางคนไม่เห็นว่าพิธีบัพติศมาเป็นสิ่งที่สำคัญ( เพราะมีบางคนสอนไม่รับก็รอด)
                     6. เพราะบางคนป่วย,พิการ,หรือ เสียชีวิตก่อน,อื่นๆ
            *** แต่เราไม่มีข้ออ้างที่ไม่รับบัพติศมาเมื่อเราเป็นผู้เชื่อแท้
                       - เพราะเป็นเรื่องน่ายินดี,เพราะเป็นการสำแดงและประกาศความเชื่อแท้
                       - เพราะเป็นโอกาสในการถวายเกียรติและเริ่มต้นชีวิตที่ดีต่อพระเจ้า
                       - เพราะทำให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่อีกขั้นและเหมาะสมในการร่วมกิจกรรมอื่นๆ
                       - เพราะทำให้เราไม่รู้สึกผิดในการติดตามพระเจ้า หรือ ร่วมพิธีศิลมหาสนิท

บทเรียนบัพติศมา 3

- จุดประสงค์.... เพื่อให้คริสเตียนเข้าใจเพื่อรับบัพติศมา
- คำนำ ..... ทบทวน      .....  ใครที่เหมาะสมในการรับบัพติศมาจริงๆ
           ...... มีหลายคนที่เชื่อพระเจ้าจริงๆแต่มีบางคนที่ยังไม่ควรที่จะรับบัพติศมา
- เรื่องนำเสนอ ..... ใครที่เหมาะสมจะรับบัพติศมา
      1. ผู้ที่เป็นผู้เชื่อแท้เท่านั้น 
            - คือผู้ที่รับเชื่อและมั่นใจในความรอดและมีพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า
                   คือ ต้องรับการบังเกิดใหม่และรับบัพติศมาแห้ง คือบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์
                          ( 1คร.12.13  กจ.8. 26-40 )
             - เพราะคนที่เชื่อแต่ไม่รับเชื่อยังไม่รอด ยังไม่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์ยังไม่บังเกิดใหม่
                      จึงไม่ควรรับเพราะไม่มีประโยชน์ไม่มีผล ไม่มีส่วน ไม่เข้าใจ เหมือนเล่นอาบน้ำเท่านั้น
            - เพราะอันตรายและมีโทษ   เราจะเล่นๆกับพระเจ้าไม่ได้   (1คร.11.27-32 กจ.8.20-24)
                      ทำให้บางคนเสียชีวิต บางคนป่วย บางคนถูกพระเจ้าตีและลงโทษอื่นๆ
       2. ผู้ที่เข้าใจและพร้อมเท่านั้น  ( กจ.8.26-40 )
              - เพราะคนที่พร้อมคือคนที่เชื่อแท้และเข้าใจความหมายและมั่นใจในความรอด
              - เพราะคนที่พร้อมคือคนที่เต็มใจสมัครใจและพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำ
              - เพราะคนที่พร้อม คือคนที่ถวายตัวให้กับพระเจ้าและแสดงความรักและความเชื่อ
              - เพราะคนที่พร้อมเขามีชีวิตที่เหมาะสม คือ ทิ้งชีวิตเก่าแล้วและได้แล้ว
                         เช่น ขันที, และผู้คุม, คนสามพันคน, โครเนลิอัส,และสาวกของยอห์น
              *** เราจะไม่รับบัพติศมาเมื่อยังไม่พร้อมและยังไม่มั่นใจในการบังเกิดใหม่
              *** เราอย่ารับเมื่อไม่พร้อมเพราะถ้าไม่เข้าใจก็ไร้ประโยชน์
              *** เรารับเชื่อแม้ยังไม่รับเราก็ได้รับความรอดแต่ชีวิตยังไม่พร้อมก็ให้คอยก่อน
                            เพื่อความเหมาะสมและการมีระบบขั้นตอนเพื่อถวายเกียรติพระเจ้า
·        ข้อคิดอื่นๆ
            - บางคนอยากรับบัพติศมาเพื่อจะได้เป็นคริสเตียนและได้ในรับรับในการสมัครงาน
            - บางคนอยากรับบัพติศมาเพื่อเอาใจแฟนเพื่อเข้าพิธีแต่งงานได้ เดี๋ยว อ. ไม่ทำพิธีให้
            - บางคนรับเพราะตามเพื่อนกลัวอายเพื่อนถ้าไม่รับพร้อมกัน
            - บางคนรับเพราะเกรงใจอาจารย์และมิชชันนารี
            - บางคนรับเพราะอยากเข้าเรียนในโรงเรียนพระคัมภีร์และโรงเรียนคริสเตียน
            - บางคนรับเพราะหวังผลบางอย่าง...... เช่น ซีโมน กจ.8.20
            - บางคนรับเพื่อจะรับความรอดตามคำสอนผิดๆ  ( 1ตป.3.20-21 ลก.23.39-41)
 * สรุปข้อให้เรารับด้วยความพร้อมและความเข้าใจจริงๆ
            - การรับบัพติศมาเป็นเรื่องน่ายกย่อง น่ายินดีและภูมิใจในการถวายเกียรติพระเจ้า
            - การรับบัพติศมาเป็นประตูสู่พระพรและการเติบโตอีกขั้นของชีวิตคริสเตียน
            - จงสมัครใจและเข้าใจและพร้อมจริงๆในการรับัพติศมาอยู่ที่ชีวิตเราและความเข้าใจ
            ***** เราเองเท่านั้นที่รู้ว่าพร้อมหรือไม่
บทเรียนบัพติศมา 4
-                    จุดประสงค์ ..... เพื่อให้คริสเตียนเข้าใจความหมายของพิธีบัพติศมาอย่างถูกต้อง
-                    คำนำ ...... ทบทวนบทเรียน1-3 ความหมาย,เหตุผล,ใครที่ควรรับบัพติศมา
-                    เรื่องนำเสนอ ..... เราควรรับบัพติศมาอย่างไร
*** คริสเตียนมีพิธีบัพติศมาแตกต่างกันดังนั้นเราต้องรู้และเข้าใจจริงๆ
*** คริสเตียนมีพิธีบัพติศมาอย่างไรบ้าง
          1. รับโดยการจุ่ม
          2. รับโดยการพรม
          3. รับโดยการเจิม
*** พระคัมภีร์สอนเรื่องวิธีการรับบัพติศมาอย่างไรที่ถูกต้อง
         1. โดยการจุ่ม
                 - เพราะตามความหมายในภาษากรีกบัพติศมาแปลว่าจุ่ม
                 - เพราะตามแบบอย่างของคริสเตียนสมัยเริ่มต้นโดยการจุ่ม
                 - เพราะพระคัมภีร์สอนและมีหลักฐานและเหตุผลให้รับโดยจุ่ม
                         เช่น ท่านยอห์นทำพิธีที่แม่นำจอร์แดน  มธ.3.13  ยน.3.23 เพราะต้องการน้ำมาก
                                 ใช้น้ำมากเพื่อการจุ่มตัวให้มิดลงไปในน้ำ
                  - เพราะการจุ่มเป็นภาพที่ดีและใกล้เคียงกับการชำระบาปและถูกฝังไว้และฟื้นขึ้นมา
                  - เพราะพระเยซูก็รับบัพติศมาจากยอห์นโดยการจุ่มในแม่น้ำจอร์แดนด้วย
          2. โดยการเจิม ไม่ใช่การรับบัพติศมาที่มนุษย์เป็นผู้ทำ
                   - เพราะเป็นงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่บัพติศมา  1คร.12.13 1ยน.2.27 ลก.4.18
                          ไม่มีมนุษย์คนใดเจิมเราได้นอกจากพระวิญญาณ คือ การประทับตรา อฟ.1.13-14
                   - เพราะการเจิมใช้ทำเป็นพิธีบัพติศมาไม่ได้เพราะคนละเรื่องและไม่สอดคล้องกัน
                            ** เพราะพวกเพนเทคอสที่ไม่เข้าใจพระคัมภีร์ได้เพิ่มการเจิมพระวิญญาณเข้ามา
                                     - คือ การรับพลังและฤทธิ์เดชจากพระเจ้าและทำให้เก่งและร้อนรน
                             ** เพราะพวกคาทอลิกให้การเจิมและพรมในการรับบัพติศมให้เด็กๆ
                                      - คือ เพื่อปลูกฝังให้เด็กๆนั้นรู้ว่าเขาได้เป็นลูกของพระเจ้าโดยบัพติศมา
              3. โดยการพรม ก็ไม่ใช่คำสอนในพระคัมภีร์
                         - เพราะเป็นการที่ไม่ให้ความสำคัญของพิธีบัพติศมาของกลุ่มเพรสไบทิเรียน
                                คือ เชื่อในพระเยซูอย่างเดียวก็รอดและไม่จำเป็นในการรับบัพติศมา
                                คือ เมื่อเห็นคำสั่งของพระเยซูและตัวอย่างในพระคัมภีร์เลยทำบัพติศมา
                                คือ ใช้เป็นข้ออ้างว่าบนดอยและบางแห่งไม่มีน้ำ แต่การพรมง่ายและสะดวก
                                        ( เพื่อนผมคนหนึ่งที่เคยอยู่กลุ่มนี้เขาได้รับบัพติศมาใหม่อีกครั้ง )
                          - เพราะการพรมพระคัมภีร์ไม่ได้สอนแต่ตีความหมายผิด  1ปต.1.2
                                 คือ หมายความว่าการที่พระเยซูชำระเราด้วยพระโลหิตของพระองค์
                                        แต่ท่านใช้คำว่าพรมเพื่อให้เห็นภาพการชำระให้บริสุทธิ์ในพระคัมภีร์เดิม
*** สรุป ...... เราเป็นคริสเตียนควรเชื่อฟังพระคัมภีร์และให้ความสำคัญในการรับบัพติศมา


          



                           

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
พวกเราเป็นกลุ่มคริสตจักรท่มีความเชื่อตามหลักของพระคัมภีร์อย่างเคร่งครัด เราเชื่อว่า เรารอดโดยพระคุณพระเจ้า และเชื่อในตรีเอกานุภาพ และพระคัมภีร์66เล่มเป็นการดลใจจากพระเจ้าและไม่มีความผิดพลาดของต้นฉบับ และพระวจนะของพระเจ้าเป็นแหล่งชีวิตและความจริง เป็นหนังสือท่ช่วยในการดำเนินชีวิตประจำวัน เราเชื่อว่าเมื่อเราเชื่อในพระองค์เราได้รับองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ในทันใดนั้น เพราะทรงประทับตราเรา ( เอเฟซัส 1:13-14)