ขอบคุณสำหรับเรือ

ขอบคุณสำหรับเรือ

ลุยช่วยคนที่น้ำท่วม

ลุยช่วยคนที่น้ำท่วม
ระวังเรือล่มนะ

ช่วยเหลือพี่น้องที่น้ำท่วม

ช่วยเหลือพี่น้องที่น้ำท่วม
เราคนไทยไม่ทิ้งกัน

อย่าลืมอธิษฐานเผื่อพี่น้องอาข่านะครับ

อย่าลืมอธิษฐานเผื่อพี่น้องอาข่านะครับ
เราต้องการคำอธิษฐานเผื่อ

ภาพนี้ให้บทเรียนอะไรบ้าง

ภาพนี้ให้บทเรียนอะไรบ้าง
จะปลอบใจ หนุนใจ กันเถิด

หัวเหดหยัง

หัวเหดหยัง
อย่าเว้าเรื่องแฟนอายเผิน

การเลือกคู่ครองที่ถูกต้อง

การเลือกคู่ครองที่ถูกต้อง
อย่าเทียมแอกกับคนไม่เชื่อ

วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สารบัญ
ที่ หน้า
1. บทนำ 1
2. มาตรา 1 นาม 2
3. มาตรา 2 เป้าหมาย 2
4. มาตรา 3 คำสัญญาและหลักข้อเชื่อ 2
5. มาตรา 4 เจ้าหน้าที่คริสตจักร 6
6. มาตรา 5 การเลือกตั้ง 6
7. มาตรา 6 การเป็นสมาชิกและการมีสิทธิ์ออกเสียง 6
8. มาตรา 7 การประชุมธรรมกิจ 7
9. มาตรา 8 หน้าที่ 7
10. มาตรา 9 กรรมการและคณะเจ้าหน้าที่ 8
11. มาตรา 10 เงินถวายทรัพย์ของคริสตจักร 9
12. มาตรา 11 การลงวินัย 9
13. มาตรา 12 พิธีการ 9
14. มาตรา 13 การเรียกศิษยาภิบาล 10
15. มาตรา 14 การแก้ไข 10
16. มาตรา 15 พระคริสตธรรมคัมภีร์ 10
17. คำสัญญาในการประกาศใช้ธรรมนูญคริสตจักร 10
















1 บทนำ ธรรมนูญ
2 เราซึ่งเป็นผู้ที่เลื่อมใสในพระเยซูคริสต์ พระวิญญาณของพระเจ้าทรงนำเรา เมื่อเราเป็น ผู้เชื่อ
3 และเราพึ่งในพระพรของพระเจ้า ณ บัดนี้ และ ณ ที่แห่งนี้ เราได้ตั้งคริสตจักรของพระเยซู
4 คริสต์ขึ้นเพื่อรับใช้พระองค์ และให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ ดังที่ได้ทรงเปิดเผย
5 ไว้ในพระคริสต์ธรรมใหม่ ด้วยเหตุนี้เราได้ตกลงที่จะทำตามข้อสัญญาและมาตราที่เกี่ยวกับ
6 ความเชื่อ


7 มาตรา 1 นาม
8 คริสตจักรนี้มีชื่อว่า “คริสตจักรแบ๊พติสต์ความเชื่อนนทบุรี” แห่งคณะแบ๊บติสต์ความเชื่อ
9 นนทบุรี” แห่งคณะแบ๊บติสต์กรุงเทพฯ เป็นคริสตจักรอิสระ และมีความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง
10 กับคริสตจักรที่มีความเชื่อเดียวกัน โดยถือหลังการรับศีลจุ่ม (บัพติศมา)


11 มาตรา 2 เป้าหมาย
12 คริสตจักรนี้มีเป้าหมายในการเผยแพร่พระกิตติคุณไปยังต่างแดน ดังที่พระเยซูคริสต์เจ้าทรง
13 บัญชาไว้ใน มัทธิว 28:19-20 มีการร่วมประชุมนมัสการพระเจ้าและร่วมสามัคคีธรรมทุกวัน
14 อาทิตย์ ฮีบรู 10:25 “อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนที่ขาดอยู่นั้น” เพื่อธำรงการดีให้
15 เป็นพยานแก่โลก มัทธิว 5:16 ทิตัส 3:14


16 มาตรา 3 คำสำคัญและหลักข้อเชื่อ
17 1. เกี่ยวกับพระคริสตธรรมคัมภีร์
18 เราเชื่อว่า พระคัมภีร์เดิมและพระคัมภีร์ใหม่ที่เขียนไว้แต่เดิมนั้น พระวิญญาณของพระเจ้าทรง
19 ดลใจและควบคุมผู้เขียน ฉะนั้น พระคริสตธรรมทั้งหมดจึงไม่ผิดพลาด เราเชื่อว่าพระคริสต
20 ธรรมคัมภีร์เป็นหนังสือที่พระเจ้าทรงเปิดเผยถึงพระประสงค์ของพระองค์ให้มนุษย์ทราบ
21 เป็นกฎแห่งชีวิตเพื่อให้ปฏิบัติตาม 2 ทิโมธี 3:16 2 เปโตร 1:19-21


21 2. เกี่ยวกับพระเจ้าเที่ยงแท้
22 เราเชื่อว่ามีพระเจ้าองค์เดียว ซึ่งเป็นพระเจ้าผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ทรงสำแดง
23 พระองค์เป็นสามพระภาค คือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทั้งสามพระภาคนี้
24 ทรงมีอำนาจและพระเกียรติเท่าเทียมกัน และช่วยกันในพระราชกิจใหญ่ยิ่ง คือ พระราชกิจแห่ง
25 การไถ่บาป

26 3. เกี่ยวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์
27 เราเชื่อว่า พระบริสุทธิ์ทรงเป็นพระเจ้า ทรงมีคุณสมบัติของความเป็นบุคคลและเป็นพระเจ้าเท่า
28 เทียมกับพระบิดาและพระบุตร และมีพระลักษณะเช่นเดียวกัน ความสัมพันธ์ที่ทรงมีต่อโลก
29 ที่ไม่เชื่อคือ ยืนยันถึงความบาป ความชอบธรรม และพิพากษาลงโทษ งานของพระวิญญาณ
30 บริสุทธิ์ท่ามกลางผู้ที่เชื่อ คือ ประทับตราไว้ในใจ สถิตอยู่ด้วย เติมให้เต็ม ทรงชำระ และสอน
31 ให้รู้จักทางแห่งความชอบธรรม ยอห์น 14:16-17 , 26 ฮิบรู 9:14 เอเฟซัส 1:13-14

32 4. เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์เจ้า
33 เราเชื่อว่าพระเยซูคริสต์เจ้าประสูติโดยเดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ และหญิงพรหมจารีมารีย์
34 อย่างเหนือธรรมชาติ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า ด้วยการเป็นพระเจ้าที่ปรากฏในเนื้อหนัง
35 พระองค์ดำเนินชีวิตที่ปราศจากบาป การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ก็เพื่อไถ่บาปของเรา และ
36 พระองค์ทรงฟื้นขึ้นมาจากความตายในวันที่สาม และทรงเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ทั้งพระกายของ
37 พระองค์ พระองค์จะเสด็จกลับมาสู่โลกนี้อีกเพื่อสถาปนาราชอาณาจักรของพระองค์ และตั้ง
38 บัลลังก์ของดาวิดขึ้น การเสด็จมาของพระองค์จะเสด็จมาด้วยพระกายและการเสด็จกลับมาของ
39 พระองค์ใกล้เข้ามาแล้ว อิสยาห์ 7:14 มิทธิว 1:18-25,38 ยอห์น 1:1 1 เปโตร 2:22,3:18
40 1 เธสะโลนิกา 4:16 กิจการ 15:16

41 5. เกี่ยวกับมนุษย์
42 เราเชื่อว่า พระคริสต์ธรรมคัมภีร์สอนไว้ว่า พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์มาให้บริสุทธิ์ปราศจาก
43 มลทินแต่มนุษย์จงใจที่จะก้าวออกมาจากสภาพที่ปราศจากบาป ผลก็คือมนุษย์ทุกคนเป็นคน
44 บาปด้วยการเลือกเอาการทำบาปไม่ใช่ฝืนใจทำบาป ฉะนั้นมนุษย์ต้องถูกลงโทษให้พินาศตลอด
45 ไปโดยไม่มีข้อแก้ตัวได้ ปฐมกาล 1:27 อิสยาห์ 53:6 โรม 5:12-19,3:23

46 6. เกี่ยวกับความรอด
47 เราเชื่อว่า พระคริสต์ธรรมคัมภีร์สอนไว้ว่า คนบาปรอดพ้นบาปได้เพราะพระคุณ พระบุตรของ
48 พระเจ้าทรงเป็นผู้กลางระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ มนุษย์ไม่ต้องทำอะไรนอกจากจะกลับใจและ
49 เชื่อในพระเยซูคริสต์เจ้า การที่มนุษย์จะรอดพ้นบาปได้นั้นก็ด้วยการที่ต้องบังเกิดใหม่ โดยฤทธิ์
50 อำนาจแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ แล้วรับเอาชีวิตใหม่ ทำให้เขาเป็นผู้บริสุทธิ์พ้นมลทินและได้
51 รับการอภัยบาป (1 ยอห์น 1:9) พระเจ้าทรงให้เขาเป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อ

52 7. เกี่ยวกับคริสตจักรเราเชื่อว่า
53 พระคริสต์ธรรมคัมภีร์สอนไว้ว่า คริสตจักรของพระองค์ที่เรามองเห็นนั้น เป็นที่ชุมนุนของ
54 ผู้เชื่อที่รับบัพติสมาแล้วมาร่วมสามัคคีธรรมกัน ถือรักษาบัญญัติของพระคริสต์คริสตจักรอยู่ได้
55 พระบัญญัติของพระเจ้า กระทำการถวายทรัพย์ และมีเจ้าหน้าตามที่พระองค์ได้กล่าวคือ
56 ศิษยาภิบาลและมัคนายกมีคุณสมบัติและหน้าที่ตามที่กล่าวไว้ในจดหมายทิโมธีและทิตัส
57 1 ทิโมธี 3:1-13 กิจการ 2:41-42 ทิตัส 1:5-9

58 8. เกี่ยวกับพิธีบัพติสมาและพิธีศีลมหาสนิท
59 เราเชื่อในพระคัมภีร์ที่สอนเอาไว้ว่าผู้เชื่อได้รับบัพติสมาโดยการจุ่มกายลงในน้ำเพื่อแสดงให้
60 เห็นว่าเป็นสัญลักษณ์ในการถูกตรึงถูกฝังและการฟื้นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคริสต์
61 พระผู้ช่วยให้รอดผลคือ เราได้ตายจากความบาปและฟื้นขึ้นมาสู่ชีวิตใหม่ร่วมกับพระเยซูคริสต์
62 และผู้เชื่อจึงถือว่าเป็นสมาชิกของคริสตจักรอย่างสมบูรณ์และเป็นทางการมีสิทธิ์ในการออก
63 เสียงได้อย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์
64 เราเชื่อและยอมรับพิธีศีลมหาสนิทเป็นพิธีจัดขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของ
65 พระเยซูคริสตเจ้า และประกาศการเสด็จกลับมาของพระองค์ และก่อนรับพิธีศีลมหาสนิท
66 ผู้รับต้องเป็นผู้รับบัพติสมาก่อนจึงจะรับได้ตามความเหมาะสมและผู้รับควรสำรวจและ
67 พิจารณาตนเองอย่างจริงจังเพื่อจะมีท่าทีจิตใจอย่างเหมาะสม
68 ตามแบบอย่างและจุดประสงค์ที่แท้จริง 1โครินธิ์ 11:23-28 มัทธิว 26:26-29 โรม 6:3-5
69 กิจการ 8:36-39 , 2: 7-42



70 9. เกี่ยวกับสภาพอมตะ
71 เราเชื่อว่าพระคริสตธรรมคัมภีร์สอนว่า ทุกคนเป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์
72 และเชื่อว่าผู้ที่ไม่กลับใจและยังไม่เชื่อ ไม่ยอมรับเอาพระบุตรองค์เดียวของพระองค์
73 จะได้รับโทษในบึงไฟนรกตลอดไปเป็นนิตย์ตามพระคัมภีร์ได้กล่าวไว้
74 สดุดี 16:11 ยอห์น 14:2 มิทธิว 25:46 วิวรณ์ 21:8 , 20:10

75 10. เกี่ยวกับพญามารซาตาน
76 เราเชื่อว่าพระคริสต์ธรรมคัมภีร์สอนว่ามีพญามาร ซึ่งเป็นเจ้าโลกและพระของโลกนี้
77 เป็นเจ้าแห่งย่านฟ้าอากาศที่เต็มไปด้วยความชั่ว และพยายามหาทางทำลายพระประสงค์ของ
78 พระเจ้าและชักนำมนุษย์ให้ตกลู่บ่วงแร้วของมัน และคอยทดลองความเชื่อของคริสเตียนเพื่อ
79 ให้ละทิ้งและปฏิเสธิพระเจ้า และให้ผู้เชื่อหลงจากทางพระเจ้าตามที่พระคัมภีร์ได้กล่าวไว้
80 เอเฟซัส 2:2 , 6:12 2 โครินธิ์ 4:4 , 11:13-15 วิวรณ์ 12:9

81 11. คำปฏิญาณ
82 พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าทรงนำเราในฐานะที่เป็นผู้เชื่อให้รับเอาพระเยซูคริสต์เป็น
83 พระผู้ช่วยให้รอดประกาศความเชื่อของเราและเป็นพยานเรื่องของพระเยซูคริสตเจ้าโดยรับ
84 บัพติศมาในพระนามพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ต่างปฏิญาณตนอย่างจริงใจ
85 และยินดี เข้าเป็นการเดียวกันกับพระคริสต์ 1 โครินธิ์ 12:13 ดังนั้น ด้วยความช่วยเหลือขององค์
86 พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า เราจึงดำเนินชีวิตด้วยความรักของคริสเตียนและมานะบากบั่น
87 พากเพียรเพื่อความก้าวหน้าของคริสตจักรแสวงหาความรู้ ความบริสุทธิ์ และเล้าโลมใจกันเพื่อ
88 ธำรงความเจริญรุ่งเรืองและธำรงฝ่ายจิตใจไว้ เพื่อดำรงการประชุมนมัสการ และกฎบัญญัติและ
89 ระเบียบวินัยรวมทั้งหลักคำสอนตามหลักพระคัมภีร์ รวมทั้งมีส่วนช่วยเหลือการประกาศพระ
90 กิตติคุณอย่างเบิกบานใจและสม่ำเสมอ ช่วยเหลือในด้านค่าใช้จ่ายของคริสตจักร บรรเทาทุกข์
91 แก่ผู้ที่ขัดสน และประกาศพระกิตติคุณไปยังชนนานาชาติ จนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก เรายัง
92 ยินยอมที่จะทะนุบำรุงครอบครัวและเข้าเฝ้าเป็นส่วนตัว ให้บุตรได้ศึกษาพระวจนะของพระเจ้า
93 หาทางให้ญาติพี่น้องได้พบกับความรอด จะดำเนินชีวิตในโลกนี้ด้วยความรอบคอบไม่ว่าจะ
94 กระทำสิ่งใดจะกระทำอย่างเที่ยงธรรม รับจ้างอย่างซื่อสัตย์และทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี หลีกเลี่ยง
95 การพูดไม่เป็นสาระ ลอบทำร้ายคนข้างหลัง และโกรธจนเหลือระงับ ไม่ขายและดื่มของมึนเมา
96 และพยายามเผยแพร่พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ด้วยใจร้อนรนเราตกลงที่จะคอยดูแลซึ่งกัน
97 และกันด้วยความรักฉันท์พี่น้องจะคิดถึงกันในยามอธิษฐานช่วยเหลือกันในยามป่วยไข้และ
98 ยามทุกข์แสดงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจกัน และพูดจาสุภาพ ช้าในการโกรธและพร้อมเสมอที่
99 จะคืนดีกัน และเอาใจใส่ถือรักษากฎของพระผู้ช่วยให้รอดยิ่งกว่านั้นเราตกลงว่าเมื่อมีใครย้าย
100 ออกจากคริสตจักรนี้ไปต้องรีบไปร่วมกับคริสตจักรที่มีความเชื่อเดียวกันให้เร็วที่สุด
101 เพื่อจะได้ทำตามคำปฏิญาณนี้ และทำตามหลักการที่พระวจนะของพระเจ้าได้ระบุไว้

102 มาตรา 4 เจ้าหน้าที่คริสตจักร
103 เจ้าหน้าที่ของคริสตจักรนี้ได้แก่ ศิษยาภิบาล มัคนายก หรือผู้ปกครอง ซึ่งจะมีน้อยแค่ไหนนั้น
104 ขึ้นอยู่กับสมาชิกในคริสตจักร ผู้อำนายการโรงเรียนรวีวารศึกษา เลขานุการ และเหรัญญิก
105 ของคริสตจักร

106 มาตร 5 การเลือกตั้งเจ้าหน้าที่
107 1. จะมีการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ของคริสตจักรนี้ นอกจากศิษยาภิบาล ขึ้นทุกสองปีโดยจะทำการ
108 เลือกตั้งในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม แต่จะมีการเลือกผู้ที่จะขึ้นมาแทนสำรองงานก่อน
109 หมดวาระในปีที่สอง
110 2. สมัยหนึ่งจะกินระยะเวลาสองปี ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดจะรับหน้าที่อยู่ในตำแหน่งเดิมติดต่อกัน
111 เกินสองสมัย ถ้าจะรับตำแหน่งเดิมอีก ต้องหยุดพักสมัยหนึ่งก่อน
112 3. การอธิษฐานให้พระเจ้าทรงนำควรกระทำอย่างสม่ำเสมอก่อนเลือกตั้งเจ้าหน้าที่คริสตจักร
113 ผู้เป็นประธานในการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ควรอ่าน 1 ทิโมธี 3:1-15 ให้ที่ประชุมฟังก่อนการออก
114 เสียงเลือกตั้งครั้งสุดท้าย

115 มาตรา 6 การเป็นสมาชิกและการมีสิทธิ์ออกเสียง
116 1. การเป็นสมาชิก
117 ก. ถือเป็นการปฏิบัติของคริสตจักรนี้ ที่จะสืบถามดูให้แน่ใจว่า ผู้ที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกของ
118 คริสตจักรเหมาะสมที่เป็นสมาชิกหรือไม่ ไม่ว่าผู้จะรับบัพติศมามาแล้ว หรือมีจดหมาย
119 แนะนำตัว หรือผ่านประสบการณ์มาแล้วก็ตาม
120 ข. ผู้ที่ปรารถนาจะรับบัพติศมาจะต้องเรียนรู้ถึงการเป็นคริสเตียนจนกว่าจะมีคุณสมบัติเหมาะสม
121 ค. คริสตจักรจะเป็นฝ่ายรับหรือปฏิเสธผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิก หลังจากที่ได้พิจารณาดูข้อเท็จจริง
122 อย่างรอบคอบแล้ว
123 ง. ถือเป็นข้อปฏิบัติของคริสตจักรที่จะมีไมตรีต่อผู้ที่รับเข้าเป็นสมาชิกแล้วที่จะต้องทำไปตาม
124 วิธีการนี้ คือ ผู้สมัครกล่าวปฏิญญาณตนว่าจะทำตามข้อสัญญาของคริสตจักรในอาทิตย์แรกที่ตน
125 สะดวกหลังจากที่คริสจักรรับเข้าเป็นสมาชิกแล้ว
126 จ. คริสตจักรจะรับแต่ผู้เชื่อที่ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ไม่ดื่มสุรา ฯลฯ เข้าเป็นสมาชิก
127 1 โครินธิ์ 10:31

128 2. สิทธิในการออกเสียง
129 ก. สมาชิกทุกคนในคริสตจักรออกเสียงได้คนละหนึ่งครั้งต่อการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่หนึ่งตำแหน่ง
130 ข. ผู้ที่รับบัพติศมาแล้วจึงจะมีสิทธิ์ออกเสียงในการประชุมธรรมกิจของคริสตจักร
131 ค. การออกเสียงทุกคนควรทำโดยการลงคะแนนลับ

132 มาตรา 7 การประชุมธรรมกิจ
133 1. การประชุมธรรมกิจของคริสตจักรควรจะมีทุก ๆ สามเดือนในอาทิตย์สุดท้ายของเดือนที่สาม
134 2. เมื่อมีการประชุมธรรมกิจ ควรมีการอธิษฐานนำการประชุม ศิษยาภิบาลจะเป็นประธานนำ
135 การประชุมธรรมกิจทุกครั้ง
136 3. การประชุมธรรมกิจทุกครั้งจะตัดสินตามจำนวนเสียงส่วนมากของสมาชิกในที่ประชุม
137 4. ศิษยาภิบาลหรือผู้ใหญ่ห้าคนคือมากกว่านั้น จะเรียกประชุมพิเศษเพื่อตัดสินใจในเรื่องซึ่งรอ
138 จนกว่าจะถึงการประชุมครั้งหน้าไม่ได้

139 มาตรา 8 หน้าที่
140 1. ถือเป็นหน้าที่ของศิษยาภิบาลที่จะนำและดูแลผู้ที่ตนได้รับมอบหมายให้อยู่ในความดูแลของ
141 ตน
142 2. มัคนายกหรือผู้ดูแล จะเป็นผู้ช่วยของศิษยาภิบาลดูแลแทนเมื่อศิษยาภิบาลไม่อยู่
143 มัคนายกจะรักษาการแทน จัดหานักเทศน์ และจัดพิธีศีลมหาสนิทด้วย
144 3. เป็นหน้าที่ของผู้อำนวยการโรงเรียนรวีวารศึกษาที่จะจัดการในเรื่องการสอนพระคัมภีร์ด้วย
145 การร่วมมือกับศิษยาภิบาล เขาจะเป็นประธานของคณะกรรมการโรงเรียนพระคัมภีร์
145 ซึ่งประกอบไปด้วยบรรดาครูของโรงเรียนพระคัมภีร์
147 และจะต้องจัดการประชุมเป็นประจำไม่น้อยกว่าเดือนละครั้ง

148 4. เป็นหน้าที่ของเลขานุการคริสตจักร จะเก็บรายงานระเบียบการประชุมของการประชุมธรรม
149 กิจของคริสตจักรไว้ และจะเป็นผู้เขียนจดหมายโต้ตอบของคริสตจักร
150 5. เป็นหน้าที่ของเหรัญญิกที่จะเก็บรายงานการเงินของคริสตจักร และรายงานค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
151 ของคริสตจักรในการประชุมธรรมกิจที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกสามเดือน และควรนับเงินสองคน
152 เพื่อความโปร่งใสและความรอบคอบ
153 6. เป็นหน้าที่ของสมาชิกทุกคนที่จะเข้าร่วมประชุมนมัสการอย่างสัตย์ซื่อ และร่วมมือในการ
154 ช่วยขยายคริสตจักร และเข้าร่วมประชุมธรรมกิจของคริสตจักรทุกครั้ง

155 มาตรา 9 กรรมการและคณะเจ้าหน้าที่
156 1. คณะเจ้าหน้าที่
157 ก. มีมัคนายกหรือผู้ปกครองที่ทางคริสตจักรแต่งตั้ง จะเข้าร่วมประชุมในคณะเจ้าหน้าที่
158 บรรดามัคนายกหรือผู้ปกครองจะเลือกตั้งประธานของตนเอง
159 ข. คณะเจ้าหน้าที่จะประชุมกันเป็นประจำทุกเดือน เพื่ออธิษฐานและพิจารณาถึงสภาพจิต
160 วิญญาณของสมาชิกในคริสตจักร
161 1.) จะเรียกประชุมพิเศษเมื่อจำเป็น
162 2.) คริสตจักรจำเป็นที่จะต้องเลือกคณะเจ้าหน้าที่สำหรับดูแลตัวอาคารของโบสถ์
163 3.) มัคนายกและเจ้าหน้าที่จะเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำคริสตจักรในการประชุมธรรมกิจ
164 ของคริสตจักรทุกสามเดือน
165 4.) ปรับปรุงและรักษาตัวโบสถ์ และบ้านพักของศิษยาภิบาลจะต้องอยูในความดูของ
166 คณะเจ้าหน้าที่ด้วยความยินยอมของคริสตจักร

167 2. คณะกรรมการ
168 1. จะตั้งคณะกรรมการขึ้นตามดุลยพินิจของศิษยาภิบาล
169 2. ศิษยาภิบาลจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งของคณะกรรมการ เมื่อตั้งคณะกรรมการขึ้น
170 ศิษยาภิบาลจะกำหนดหน้าที่ได้ คณะกรรมการจะมีการประชุมตามที่เห็นสมควร เพื่อทำหน้าที่
171 ของตนเอง
172 3. ศิษยาภิบาลจะเป็นที่ปรึกษาทุกครั้งในการประชุม


173 มาตรา 10 เงินถวายทรัพย์ของคริสตจักร
174 เงินถวายทรัพย์ทั้งหมดจะตกเป็นของคริสตจักร จะเอาไปใช้ได้ก็ต่อเมื่อคริสตจักรอนุมัติ

175 มาตรา 11 การลงวินัย
176 คริสตจักรนี้จะต้องมีการลงวินัยสมาชิกที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ผิดศีลธรรม ก่อให้เกิดการ
177 ถกเถียงอลหม่านขึ้นในหมู่สมาชิก และแพร่หลักคำสอนที่ไม่ถูกต้อง ไม่ช่วยเหลือคริสตจักรใน
178 ด้านการเงินและขาดการประชุมนมัสการอยู่เสมอ ฟิลิปปี 3:17 เอเฟซัส 5:11 1 โครินธ์ 5:11
179 (ดูมาตรา 14)

180 มาตรา 12 พิธีการ
181 ถือเป็นข้อปฏิบติของคริสตจักรให้ถือรักษาพิธีสองพิธีที่พระเยซูคริสตเจ้าทรงประทานให้ คือ
182 พิธีบัพติศมาและพิธีศีลมหาสนิท (มัทธิว 26:19-20 1 โครินธิ์ 11:23-25) ผู้ที่เหมาะสมเท่านั้นจึง
183 จะทำพิธีศีลมหาสนิทนี้ได้ และผู้ที่ได้สำรวจพิจารณาเข้าใจความหมายของพิธีศีลมหาสนิทและ
184 ได้รับบัพติศมาแล้วจึงจะเป็นผู้เหมาะสมรับได้ตามลำดับของคำสอนและแบบอย่างในพระยาภิ
185 คัมภีร์ (กิจการ 2:37-42) พิธีศีลมหาสนิทนี้จะจัดขึ้นทุกเดือนในวันอาทิตย์แรกของเดือนโดย
186 ศิษยาภิบาลและมัคนายกหรือผู้ใหญ่ในคริสตจักรเป็นผู้ทำพิธี

187 มาตรา 13 การเรียกศิษยาภิบาล
188 1. คริสตจักรจะต้องจัดให้มีการอธิษฐานสักระยะหนึ่ง เพื่อขอให้พระเจ้าทรงนำในการเลือก
189 ศิษยาภิบาล
190 2. ถือเป็นข้อปฏิบัติของคริสตจักรนี้ ที่จะเลือกแต่ผู้ที่คริสตจักรออกเสียงลงมติเป็นเอกฉันท์
191 3. คริสตจักรจะต้องตรวจดูบันทึก และการอบรมของผู้ที่จะเป็นศิษยาภิบาลอย่างรอบคอบ
192 คริสตจักรจะต้องเป็นผู้ประกาศให้ทราบว่า ผู้ที่จะเป็นศิษยาภิบาลนั้นได้รับคะแนนเสียงเป็น
193 เอกฉันท์หรือไม่
194 4. เมื่อศิษยาภิบาลรู้สึกว่า พระเจ้าทรงนำให้เขาลาออก เขาจะต้องแจ้งให้คริสตจักรทราบก่อน
195 อย่างน้อยสองเดือน
196 5. จะต้อง ระบุจำนวนเงินเดือนที่จะให้อย่างเป็นทางการ และระยะเวลาการพักผ่อน
197 หรือพักร้อน ตลอดจนเงื่อนไขอื่น ๆ ที่จะต้องตกลงกัน

198 มาตรา 14 การแก้ไข
199 จะเปลี่ยนแปลงธรรมนูญนี้ไม่ได้ นอกจากในการประชุมธรรมกิจที่มีเป็นประจำ และหลังจากที่
200 ได้เสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงในการประชุมที่มีขึ้นทุกสามเดือน

201 มาตรา 15 พระคริสตธรรมคัมภีร์
202 พระคริสตธรรมคัมภีร์ จะเป็นกฎแห่งความเชื่อและข้อปฏิบัติของคริสตจักรนี้ ถือเป็นเรื่อง
203 สำคัญไม่นับถึงข้อสัญญานี้ และมาตราต่าง ๆ เกี่ยวกับความเชื่อ (2 ทิโมธี 3:16)

204 คำสัญญาในการประกาศใช้ธรรมนูญคริสตจักร
205 ข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นสมาชิกและผู้ร่วมนมัสการในคริสตจักรแบ๊พติสต์ความเชื่อขอยอมรับ
206 กฎธรรมนูญของคริสตจักรนี้ ด้วยความเต็มใจเพื่อจะทำให้คริสตจักรมีระบบระเบียบและเจริญ
207 เติบโตเข้มแข็งมีความรักเคารพและยำเกรงให้เกียรติและเชื่อฟังกันและกันด้วยความรักในองค์
208 พระเยซูคริสต์เจ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
พวกเราเป็นกลุ่มคริสตจักรท่มีความเชื่อตามหลักของพระคัมภีร์อย่างเคร่งครัด เราเชื่อว่า เรารอดโดยพระคุณพระเจ้า และเชื่อในตรีเอกานุภาพ และพระคัมภีร์66เล่มเป็นการดลใจจากพระเจ้าและไม่มีความผิดพลาดของต้นฉบับ และพระวจนะของพระเจ้าเป็นแหล่งชีวิตและความจริง เป็นหนังสือท่ช่วยในการดำเนินชีวิตประจำวัน เราเชื่อว่าเมื่อเราเชื่อในพระองค์เราได้รับองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ในทันใดนั้น เพราะทรงประทับตราเรา ( เอเฟซัส 1:13-14)