ขอบคุณสำหรับเรือ

ขอบคุณสำหรับเรือ

ลุยช่วยคนที่น้ำท่วม

ลุยช่วยคนที่น้ำท่วม
ระวังเรือล่มนะ

ช่วยเหลือพี่น้องที่น้ำท่วม

ช่วยเหลือพี่น้องที่น้ำท่วม
เราคนไทยไม่ทิ้งกัน

อย่าลืมอธิษฐานเผื่อพี่น้องอาข่านะครับ

อย่าลืมอธิษฐานเผื่อพี่น้องอาข่านะครับ
เราต้องการคำอธิษฐานเผื่อ

ภาพนี้ให้บทเรียนอะไรบ้าง

ภาพนี้ให้บทเรียนอะไรบ้าง
จะปลอบใจ หนุนใจ กันเถิด

หัวเหดหยัง

หัวเหดหยัง
อย่าเว้าเรื่องแฟนอายเผิน

การเลือกคู่ครองที่ถูกต้อง

การเลือกคู่ครองที่ถูกต้อง
อย่าเทียมแอกกับคนไม่เชื่อ

วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2552

ชีวิตท่ดึงดูดผู้คนของพระเยซู

เทศนา โดย อ. สมชิต แจ้งไพร
- จุดประสงค์เพื่อให้คริสเตียนได้เรียนแบบอย่างจากพระเยซูที่ดึงดูดผู้คนเข้ามาพระองค์
- คำนำ...... มีหลายคนที่หาวิธีสารพัดอย่างที่จะนำคนเข้ามาเชื่อพระเจ้าและเข้ามาคริสตจักร
เช่น สอนภาษาอังกฤษฟรี และ การนำเอาสิ่งที่ท้าทายเรื่องสนุกเรื่องตลกคลายเตรียดต่างๆ
บางคริสตจักรจ้างดารา จ้างตลก มีการแสดงมายากล และมีการโฆษณา อื่นๆ หรือ หานักร้องดังๆมาเป็นตัวล่อชวน แต่ก็ยังไม่สำเร็จเท่าที่ควร แต่บางคริสตจักรมีการใช้ของรางวัลล่อเช่นแจกข้าวสารแจกแว่นตา ให้ทุนการศึกษาอื่นๆ และบางแห่งมีการประกาศรักษาโรคเหมือนพระเยซูและเปาโล
แต่มีผลเสียคือคนที่ไม่หายก็ด่าและประจาน ดังนั้นเราต้องเรียนรู้จากพระเยซู
- เรื่อง ...... เคล็ดลับการดึงดูดผู้คนของพระเยซูคริสต์ ( มธ 5:1-12 )
/// พระเยซูทำอย่างไร และใช้วิธีอะไรจึงมีคนเข้ามาหาพระองค์อย่างเนื่องแน่น
/// พระเยซูทรงใช้เคล็ดลับ 3 ร.
พระเยซูมีความรักให้
- เป็นความรักที่จริงจัง จริงใจ ไม่มีอะไรแอบแฝง และไม่มีเงื่อนไข และบริสุทธิ์
เช่น บางครั้งพระเยซูแสดงความรักเมตตาและร้องไห้ ( มธ 9:36)
ทรงร้องไห้กับครอบครัวลาซารัส ( ยน 11:35-36)
- ทุกคนต้องการความรักแท้ และทุกคนหิวและโหยหาความรักเช่นนี้ ซึ่งในผู้อื่นไม่มี มีแต่ไม่เหมือน
พระเยซูคริสต์ ( พระเยซูทรงตรัสว่าพระองค์ทรงเป็นผู้เลี้ยงที่ดี ที่รักฝูงแกะ ยน. 10:10-15 )
แต่พวกผู้นำศาสนาในเวลานั้น ไม่มีความรักให้ประชาชน แต่หาผลประโยชน์และอำนาจจากประชาชน ตาดำๆ ดังนั้นพระเยซูจึงมองเห็นสภาพพวกเขาเหมือนแกะไม่มีผู้เลี้ยง
- พระเยซูประทานความรักให้กับทุกคน สอนเรื่องความรักเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญที่สุด
เช่น ทรงให้ความรักกับคนบาปอย่างศักเคียส ( ลก.19:1-10)แม้เป็นคนที่สังคมรังเกียจ
เช่น ทรงให้ความรักกับโสเภณีหญิงชั่วที่บ่อน้ำและคนที่กำลังจะถูกหินขว้าง ( ยน 4: 8:1-11
ลก 7:36-50) แม้ยูดาสที่เป็นศัตรูก็ทรงให้ความรักและล้างเท้าให้ด้วย
พระเยซูทรงให้ความรักไม่จำกัดและให้หมดใจ แม้กับเด็กๆ หญิงแม้ และศัตรูคือพวกฟาริสี
และแม้แต่โจรผู้ร้ายบนไม้กางเขนก็ยังได้รับความรัก ( ลก23:39-41)
/// การประยุกต์ใช้..... ถ้าเราอยากให้คนเข้ามาคริสตจักรมากๆ เยอะๆ ต้องมีความรักให้เขาเหมือนพระเยซู เพราะโลกนี้เป็นโรคขาดความรัก เขากำลังหารักแท้ รักที่มั่นคง รักที่ไม่เปลี่ยนแปลง คือ จากพระเยซูคริสต์ หรือ จากชีวิตของผู้เชื่อ คือคุณเอง เราให้ได้ทุกวัน ทุกเวลา เช่น การให้ความช่วยเหลือหรือน้ำจิตน้ำใจเล็กๆน้อยๆ ในการซื้อน้ำดื่มเย็นๆให้ หรือกาแฟ หรือ ถามสารทุกข์สุขดิบ และทำสิ่งที่ดีให้เขา
เขาสามารถมองเห็นความรักของพระเยซูผ่านทางชีวิตของเรา เช่น คนที่มาที่โบสถ์มีเพื่อน มีการต้อนรับ
มีคนนั่งคุยคอยช่วยเปิดพระคัมภีร์ ไม่ปล่อยให้เขาเหงาคนเดียว เป็นความรักที่เขาสัมผัสและเห็นได้จริง
และเราต้องทำจากใจ ทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ต่อหน้าและลับหลัง คนจะแห่กันเข้ามาแน่นอน
เช่น คริสตจักรแรกในกรุงเยรูซาเล็ม ( กจ.2: 43-47) แบ่งปันความรัก ข้าวของ เงินทอง หนุนใจ อื่นๆ
- นี่เป็นโอกาสทองของเราที่เราจะสำแดงความรักต่อโลกที่กำลังโหยหิวความรัก
/ เพราะพวกเขาหนีเสือปะจระเข้ เพราะในกิจกรรมของศาสนาคือผลประโยชน์จากกระเป๋า
ของคนที่ เข้าไป และถูกหลอกลวง ถูกปล้น ถูกทำร้าย อื่นๆ
/ เราอย่าให้คริสตจักรหมดความรักของพระเจ้า โดยการแตกแยกกัน ทะเลาะกัน
และแบ่งชั้นวรรณะเหมือนคริสตจักรที่ท่านยากอบเขียนไปตักเตือน ( ยก2:1-7) และที่โครินธิ์ก็ขาดความรัก
และคดโกงกัน ฟ้องศาล และแบ่งพรรคแบ่งพวก ( 1 คร 1:10-13 3: 1-8 13:1-13) ดังนั้นเปาโลจึงเน้นและสอนเรื่องความรักเป็นสิ่งที่พวกเขาขาด พวกเขาละเลยมองข้าม เพราะไม่ใช่พวกดึงดูดคนเข้ามาแต่ผลักใสให้เขาออกไป คริสเตียนทุกคนก็เช่นกันต้องมีความรักของพระเยซูในชีวิต และสำแดง สัมผัสได้จริง
/ ผู้รับใช้บางคนหรือคริสเตียนบางคนมีความรักแค่ในคริสตจักรแต่นอกคริสตจักรไม่มี
มีตัวอย่างของครอบครัวนักเทศ วันหนึ่งภรรยาจึงหอบที่นอนหมอนมุ่งมานอนที่คริสตจักรและศิษยาภิบาลก็ถามภรรยาว่า ทำไมเอาที่นอนมานอนที่คริสตจักร ภรรยาตอบว่า เพราะว่าในคริสตจักรมีความรักแต่เมื่ออยู่ที่บ้านคุณไม่มีความรักให้เลย พี่น้องที่รักพระเยซูไม่ได้มีอะไรที่เราเองทำไม่ได้คือการสำแดงความรักเหมือนพระองค์ เป็นความรักที่จริงใจ จริงจัง และสัมผัสได้ ใจสัมผัสใจ พระเยซูยอมเสียสละ อดทน และปรารถนาดี ให้กับทุกคน และแม้เขาจะปฏิเสธความรักของพระองค์ และข่มเหง แต่ความรักก็จะทำให้เขาสำนึกผิดได้
/ วันนี้ขอให้คริสเตียนดึงดูดผู้คนด้วยความรักเหมือนพระเยซู

พระเยซูมีความรู้ให้ ( มธ 5: 6: 7: )
- พระเยซูทรงเป็นความจริง เป็นความสว่าง เป็นพระวาทะ เป็นสติปัญญา เป็นผู้กลาง
ดังนั้นในพระเยซูจึงมีความรู้มากมายทุกๆแง่มุมของชีวิต ทรงรู้อดีต อนาคต ปัจจุบัน
ดังนั้นมีหลายคนที่เรียกพระองค์ว่ารับบีแปลว่าครูหรืออาจารย์ผู้ประเสริฐ
- พระเยซูทรงให้ความรู้เรื่องเคล็ดลับความสุข 5:1-12
- พระเยซูทรงให้ความรู้เรื่องการมีชีวิตที่มีอิทธิพลต่อโลกเหมือนเกลือและตะเกียง 5:13-16
- พระเยซูทรงให้ความรู้เรื่องพระบัญญัติและความเคารพยึดมั่น 5:17-20
- พระเยซูทรงให้ความรู้เรื่องความโกรธและการยกโทษคืนดีกัน 5:21-26
- พระเยซูทรงให้ความรู้เรื่องการหย่าร้างและการผิดและล่วงประเวณี 5:27-32
- พระเยซูทรงให้ความรู้เรื่องการตอบแทนการตอบโต้คนที่เอาเปรียบและศัตรู 5:38-48
- พระเยซูทรงให้ความรู้เรื่องการบริจาค ทำทาน ถวายทรัพย์ที่ถูกต้อง 6:1-4
- พระเยซูทรงให้ความรู้เรื่องการอธิษฐานและการถืออดอาหารอย่างไรจึงถูกต้อง 6:5-18 7:7-12
- พระเยซูทรงให้ความรู้เรื่องทรัพย์สมบัติที่ยั่งยืน และตาฝ่ายวิญญาณ 6:19-24
- พระเยซูทรงให้ความรู้และทางแก้ไขเรื่องความกระวนกระวายใจ วิตกกังวล 6:25-34
- พระเยซูทรงให้ความรู้เรื่องการตัดสิน ต่อว่าผู้อื่น 7:1-6
- พระเยซูทรงให้ความรู้เรื่องหนทางแห่งความรอด ทางแห่งความจริง 7:13-27
/// เป็นความรู้ที่แท้จริง ใช้ได้จริง เป็นนามธรรมและรูปธรรม ใช้ได้ตลอดเวลาและทุกยุคสมัย
- เป็นความรู้ใหม่ๆที่เราอาจไม่เคยรู้ และคิดไม่ถึง ทรงเป็นคลังสติปัญญา ( คส. 2:3 เพื่อเขาจะได้รับความชูใจและเข้าติดสนิทกันในความรัก และเข้าใจความอุดมบริบูรณ์แห่งความเข้าใจ และเข้าในความรู้ความล้ำลึกของพระเจ้า คือพระคริสต์ 3ซึ่งคลังสติปัญญาและความรู้ทุกอย่างทรงปิดซ่อนไว้ในพระองค์ ( โรม 16:27 โดยพระเยซูคริสต์ ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้าผู้ทรงสัพพัญญูแต่องค์เดียวสืบๆไปเป็นนิตย์ อาเมน 11:33 โอพระปัญญาและความรอบรู้ของพระเจ้านั้น ล้ำลึกเท่าใด ข้อตัดสินของพระองค์นั้นเหลือที่จะหยั่งรู้ได้ และทางของพระองค์ก็เหลือที่จะสืบเสาะได้

///การประยุกต์ใช้ ......... พระเยซูทรงดึงดูดผู้คนโดยการสอน ให้ความรู้อันแท้จริง ไม่ปิดบัง ไม่ลดทอนความจริงแม้เขาอาจรับไม่ได้กับคำสอนของพระองค์ เช่น เรื่องการพิพากษา อื่นๆ
ดังนั้นเราก็สามารถดึงดูดผู้คนโดยการให้ความรู้ ข่าวประเสริฐ ข่าวดี เรื่องราวในพระคัมภีร์ เรื่องราวในอนาคต เรื่องราวในการดำเนินชีวิต การแก้ไขปัญหา และเรื่องความรัก ความรอด ความมั่นคงปลอดภัยของชีวิต ความรู้ในพระคัมภีร์เป็นความรู้แท้เพราะเป็นพระวจนะของพระเจ้าที่ดลใจ
และให้ความรู้และประโยชน์มากมาย ( 2ทธ 3:16-17 และตั้งแต่เด็กมาแล้ว ที่ท่านได้รู้พระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสามารถสอนท่านให้ถึงความรอดได้โดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์ 16พระคัมภีร์ ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และ(หรือ ทุกตอนที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้า ก็) เป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และการอบรมในทางธรรม 17เพื่อคนของพระเจ้าจะพรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง ) ในโลกนี้มีคริสเตียนเท่านั้นที่ให้ความรู้อันแท้จริง เช่น
- พวกเขายังเชื่อว่าโลกนี้ไม่มีใครสร้าง , มนุษย์เกิดมาจากลิง , เวียนว่ายตายเกิด , ทำดี ทำบุญไปสวรรค์
- พวกเราสามารถดึงดูดผู้คนโดยให้ความรู้เหมือนพระเยซู
เช่น เปาโล , เปโตรเทศนา , สเทเฟ้นเล่าเรื่องพระคัมภีร์ , ฟิลิปอธิบายพระคัมภีร์ให้ขันทีฟัง , เปาโลสอนเรื่องพระเจ้าเที่ยงแท้ให้กับชาวกรุงเอเธน , สอนพระคัมภีร์แก่ชาวยิวในธรรมศาลา,
( กจ.2:14-42 6:8-15 7:1-60 8:26-40 17:1-34 18:24-28 )
- ปัจจุบันนี้เราสามารถทำได้และหลากหลายในการให้ความรู้ เช่น
การเรียนพระคัมภีร์เป็นกลุ่ม บทเรียนไปรษณีย์ และทางเวบไซด์ และทางหนังสืออื่นๆ
- ดังนั้นเราต้องมีการเรียนพระคัมภีร์ เรียนระวี ฟังคำเทศนา ร่วมสัมมนา ร่วมค่าย อื่นๆ
- แต่ปัญหา คือ เราไม่มีความรู้ เราไม่มารับความรู้ เราไม่ใส่ใจ เราไม่ยอมเสียเวลาศึกษาค้นคว้า
และปัญหา คือ เรารู้มากเกินไป และไม่มีการปฏิบัติจริง
- วันนี้เราจงดึงดูดคนโดยมีความรู้ให้กับเขา ทุกคนต้องการความรู้ ต้องการความจริง และคำตอบชีวิต

3. พระเยซูมีความรอดให้
- เป็นความรอดแท้ เป็นความรอดนิรันดร์ เป็นความรอดที่ร้อยเปอร์เซ็น
พระเยซูทรงเชื้อเชิญ ท้าทายให้คนเชื่อวางใจ เพื่อรับความรอด พ้นจากการพิพากษา
- พระเยซูมีความรอดให้ เพราะทรงเป็นพระเจ้า ผู้พิพากษา ผู้ช่วยให้รอด เครื่องบูชาไถ่บาป
( ยน1:29 14:6 3:16-20 10:10,28 ลก. 19:1-10 23: 39-42 )
เช่น พระเยซูทรงให้ความรอดกับศักเคียส , กับโจรที่กางเขน , และกับคนตรบอด คนผีเข้าสิงอื่นๆ
- เพราะเรื่องความรอดนี้เองจึงทำให้หลายคนหลั่งไหลเข้ามาและติดตามพระเยซู
/// พระเยซูทรงให้เรื่องความรอดเสมอในการสอน เชื้อเชิญท้าทายให้ตัดสินใจเชื่อ
- ทรงสอนทางรอดนั้นคับแคบ เพราะไปทางพระเจ้าไม่ใช่ทางของตนเอง มธ. 7:13-14
- ทรงสอนความรอดนั้นต้องทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าไม่ใช่ตามศาสนา 7:21-23
- ทรงสอนและสรุปการับความรอดเมื่อฟังแล้วตอบสนองอย่างไร
/ เชื่อ แต่ไม่มีการประพฤติ ไม่มีผล เชื่อแต่ปาก เชื่อปลอมๆ เชื่อแบบมาร (
ยก 2:17 ความเชื่อก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่ประพฤติตามก็ไร้ผล
2:19 ท่านเชื่อว่าพระเจ้าทรงเป็นหนึ่ง นั่นก็ดีอยู่แล้ว แม้พวกปีศาจก็เชื่อ และกลัวจนตัวสั่น
/ รับเชื่อ คือว่าถ้าท่านจะรับด้วยปากของท่านว่า พระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และเชื่อในจิตใจว่า พระเจ้าได้ทรงชุบพระองค์ให้เป็นขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด 10ด้วยว่า ความเชื่อด้วยใจก็นำไปสู่ความชอบธรรม และการยอมรับสัจจะของพระเจ้าด้วยปากก็นำไปสู่ความรอด ( โรม10:9-10 ) ความรอดเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นที่สุด และทุกคนต้องการ

/// การประยุกต์ใช้ ....เราสามารถดึงดูดผู้คนโดยมีความรอดแท้ให้กับเขา ไม่ใช่ หกสิบ หรือ เก้าสิบเปอร์เซ็น - แม้ในกลุ่มคริสเตียนเองก็ไม่มีความรอดแท้จริงให้ เช่น รอดโดยพิธีบัพติศมา เป็นความเชื่อของกลุ่มคริสตจักรของพระคริสต์ จะมีปัญหามากกับพี่น้องชาวเขาทางภาคเหนือที่เข้าใจผิด และกลุ่มเซเวนเดย์สอนรอดโดยการประพฤติตามบัญญัติสิบประการ ก็ผิดเพราะไม่มีใครทำได้ครบถ้วนสมบูรณ์ และกลุ่มคาทอลิกก็รอดโดยการทำพิธิกรรมให้ครบ และแล้วแต่บาทหลวงและสันตะปาปา ก็เป็นไปไม่ได้เพราะมนุษย์กับมนุษย์จะให้ความรอดไม่ได้นอกจากพระเจ้าเท่านั้น และ กลุ่มคาริสแมติคและกลุ่มความหวัง สอนว่าความรอดสูญหายได้เมื่อคริสเตียนทำบาปและพระวิญญาณจะออก และต้องรับเชื่อใหม่ บ่อยๆ
- เราต้องเอาความรอดเป็นจุดดึงดูดคนเข้ามา เพราะคนต้องการความรอดแน่นอน ไม่มีใครอยากตกนรก
และเราต้องอธิบายข่าวประเสริฐอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และเน้นเรารอดโดยพระคุณ ทางพระเยซู ไม่ใช่ทางการเป็รสมาชิกคริสตจักร หรือเป็นครอบครัวคริสเตียน พ่อแม่เป็นคริสเตียน ประเทศมีคริสเตียนเป็นศานาประจำชาติ ก็ไม่ช่วยให้ใครรอดได้ แต่คนที่เชื่อวางใจในพระเยซูจริงๆเท่านั้น
( อฟ 2:8-9 ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายกระทำเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้ 9ความรอดนั้นจะเนื่องด้วยการกระทำก็หามิได้ เพื่อมิให้คนหนึ่งคนใดอวดได้)

สรุป...... พระเยซูทรงดึงดูดผู้คนเข้ามาหาพระองค์อย่างท่าทึ่งและอัศจรรย์ใจโดยใช้วิธีการง่ายๆ
1. มีความรักให้กับเขา
2. มีความรู้ให้กับเขา
3. มีความรอดให้กับเขา
- นี่คือจุดขาย จุดแข็ง จุดแตกต่างจากศาสนาและความเชื่ออื่นๆทั่วโลก ที่มีแค่สร้างภาพเท่านั้น
/ เพราะเขาไม่มีความรักแท้เหมือนพระเยซู
/ เพราะเขาไม่มีความรู้ ความจริงเหมือนพระเยซู
/ เพราะเขาไม่มีความรอดเหมือนพระเยซู และไม่มีใครเป็นผู้ช่วยให้รอดได้
( กจ 4:12 ในผู้อื่นความรอดไม่มีเลย ด้วยว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้ ไม่ทรงโปรดให้มีในท่ามกลางมนุษย์ทั่วใต้ฟ้า” )
/ เพราะเขาไม่ใช่เจ้าของสวรรค์ จะช่วยให้อนุญาตให้เข้าสวรรค์ได้อย่างไร เราต้องรู้จักเจ้าของบ้าน เจ้าของสวรรค์ก่อนจึงจะเข้าไปได้ เช่น แม้เรารู้จักในหลวงแต่ในหลวงไม่อนุญาตเราก็เข้าวังไม่ได้
- ปัญหาทำคริสตจักรและคริสเตียนไม่ดึงดูดผู้คนหมือนพระเยซู
/ เพราะเราไม่ทำเหมือนพระเยซู เช่น มีความรักแค่ปาก ไม่เสียสละ ไม่มีการกระทำ
/ เพราะเราไม่ทำเหมือนพระเยซู ให้ความรู้จากความคิดของเรา ไม่ใช่จากพระคัมภีร์
และบางคนตีความหมายพระคัมภีร์ผิดๆ เพี้ยนๆ แผลงๆ เช่น พวกฟารีสีที่พระเยซูตำหนิ
ครั้งนั้นพวกฟาริสีและพวกธรรมาจารย์ออกจากกรุงเยรูซาเล็ม มาทูลถามพระเยซูว่า 2“ทำไมพวกสาวกของท่านจึงละเมิดคำสอนที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ด้วยว่าเขามิได้ล้างมือเมื่อรับประทานอาหาร” 3พระองค์จึงตรัสตอบเขาว่า “เหตุไฉนพวกท่านจึงละเมิดพระบัญญัติของพระเจ้า ด้วยเห็นแก่คำสอนที่พวกท่านรับมาจากบรรพบุรุษเล่า 4เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ว่า 'จงให้เกียรติบิดามารดาของเจ้า' และ 'ผู้ใดประณามบิดามารดาจะต้องมีโทษถึงตาย' 5แต่พวกท่านกลับสอนว่า 'ผู้ใดจะกล่าวแก่บิดามารดาว่า “สิ่งใดของข้าพเจ้าซึ่งอาจเป็นประโยชน์แก่ท่าน สิ่งนั้นเป็นของถวายแด่พระเจ้าแล้ว” ผู้นั้นจึงไม่ต้องให้เกียรติบิดามารดาของตน' 6อย่างนั้นแหละ ท่านทั้งหลายทำให้ธรรมบัญญัติของพระเจ้าเป็นหมันไป เพราะเห็นแก่คำสอนของพวกท่าน 7โอ คนหน้าซื่อใจคด อิสยาห์ได้พยากรณ์ถึงพวกท่านถูกแล้วว่า 8ประชาชนนี้ให้เกียรติเราแต่ปาก ใจของเขาห่างไกลจากเรา 9เขานมัสการเราโดยหาประโยชน์มิได้ ด้วยเอาบทบัญญัติของมนุษย์มาตู่ว่า เป็นพระดำรัสสอนของพระเจ้า” ( มธ 15:1-9 )
- เพราะบางคนสอนเรื่องความรอดแต่ตัวเองก็ยังไม่รอด ไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจ จะช่วยคนอื่นได้อย่างไร
- วันนี้ขอให้ชีวิตของเราทำตามอย่างพระเยซูเพื่อดึงดูดผู้คนเข้ามา ไม่ใช่ผลักเขาออกไป
โดยมีความรักให้เขา มีความรู้ให้เขา มีความรอดในพระเยซูให้เขา
ขอพระเจ้าทรงโปรดอวยพระพร

ไม่มีความคิดเห็น:

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
พวกเราเป็นกลุ่มคริสตจักรท่มีความเชื่อตามหลักของพระคัมภีร์อย่างเคร่งครัด เราเชื่อว่า เรารอดโดยพระคุณพระเจ้า และเชื่อในตรีเอกานุภาพ และพระคัมภีร์66เล่มเป็นการดลใจจากพระเจ้าและไม่มีความผิดพลาดของต้นฉบับ และพระวจนะของพระเจ้าเป็นแหล่งชีวิตและความจริง เป็นหนังสือท่ช่วยในการดำเนินชีวิตประจำวัน เราเชื่อว่าเมื่อเราเชื่อในพระองค์เราได้รับองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ในทันใดนั้น เพราะทรงประทับตราเรา ( เอเฟซัส 1:13-14)