คริสเตียนไทยรับใช้พระเจ้า Thai Christian Serve God (TCSG): ค่ายอนุชน

วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ค่ายอนุชน

อีกไม่กี่วันแล้วนะครับจะถึงค่ายอนุชนในกลุ่มสามัคคีธรรมแบ๊บติสต์ร่มพระคุณ สิ่งที่ต้องเตรียม คือ เงินลงทะเบียน งดกินโค้กแป๊บซี่สักอาทิตย์ละสองวันก็เกือบได้เงินเข้าค่ายแล้ว เวลาไปโรงเรียนก็ตื่นแต่เช้าคอยรถเมย์ฟรีก็ประหยัดได้อีกและหยอดกระปุกเศษเหรียญ สะสมเก็บเล็กผสมน้อย จะได้ไม่ต้องรบกวนพ่อแม่ และจะภูมิใจด้วย ลองทำดูเด้อครับเด้อ และ ลองตรวจเช็คดูวันที่จะเข้าค่าย 16-18 มีนาคม 09 กลัวว่าจะติดเรียน ติดสอบเลยไม่สามารถไปค่ายได้ และแจ้งให้พี่ๆเจ้าหน้าท่ค่ายและผู้นำอนุชนทราบด้วยนะ จะได้เตรียมและย้ายวันได้ทันเพราะถ้าส่วนใหญ่ไปไม่ได้ ต้นไม่ใบหญ้าก็จะไปนั่งฟังแทน และฝากผู้นำอนุชนเช็คด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เอาใจช่วยคนอยากสวยและหุ่นดี

กินเข้าไปแล้ว

วันหนึ่ง คุณแม่ก็กระซิบบอกเด็กชายบอยว่า “ถ้าหนูมีน้อง หนูจะต้องรักน้องแน่ๆเลย” เด็กชายบอยจึงว่า “ผมจะเป็นคนเลี้ยงน้องเองครับ จะพาไปวิ่งที่สนามหน้าบ้าน พาไปกินขนมที่ร้านเซเว่น พาไปโบสถ์ด้วยครับ”
“ดีมากลูก” แม่ว่า “แม่อยากจะบอกข่าวดีว่าหนูกำลังจะมีน้องแล้วล่ะ” ทำเอาเด็กชายบอยถึงกับกระโดดโลดเต้น วัยรุ่งขึ้นจึงไปคุยฟุ้งกับเพื่อนๆที่โรงเรียนว่า “นายรู้ไหมว่า เราจะมีน้องแล้วล่ะ”
ทุกวันเด็กชายบอยก็เฝ้าคอยแต่ตามถึงน้อง จนกระทั่งวันหนึ่งคุณแม่ก็ดึงลูกชายเข้ามากอดและบอกให้เอาหูแนบฟังที่ท้อง แล้วถามว่า “หนูได้ยินเสียงน้องที่อยู่ในท้องแม่ไหม?”
บอยพยักหน้าอย่างงงๆ
วันต่อมาเมื่อไปถึงโรงเรียน บอยจึงบอกแก่เพื่อนด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยว่า “เราไม่มีน้องแล้วล่ะ”
“อ้าวทำไมล่ะ?” เพื่อนๆรุมถาม
“แม่ของเรานะซิ กินน้องเข้าไปแล้ว”
เพื่อนๆ “???!!”

< ก่อนหน้า

ถัดไป >

นักคุย
ชายหนุ่มสามคนเจอในงานประชุมฟื้นฟูที่ภาคเหนือในช่วงเดือนธันวาคม
คนแรก : ที่บ้านผมหนาวมาก ขนาดเอาน้ำวางไว้ที่นอกบ้าน ตื่นขึ้นมามันกลายเป็นน้ำแข็ง
คนที่สอง : ที่บ้านผมหนาวกว่า ชนิดที่พูดออกมามันกลายเป็นน้ำแข็งเลยแหละ
คนที่สาม : โฮย...ที่บ้านของผมหนาวกว่า พวกคนแก่นี่นอนตาแข็ง(ตาย)หมดเลย!

ไปถามเอง
ในชั้นธุรกิจบนเครื่องยูไนเตดแอร์ไลน์ ชายคนที่นั่งด้านซ้ายเห็นหญิงชรานั่งอ่านหนังสืออยู่จึงชะโงกหน้าไปทักทาย “ผมเดาว่าคุณยายคงจะอ่านหนังสือพระคัมภีร์อยู่ใช่ไหม?”
“ใช่ มันเป็นพระวจนะของพระเจ้า” เธอตอบ
“คุณยายเชื่อเรื่องราวของหนังสือเล่มนี้หรือ?”
“แน่นอน มันเป็นความจริงทุกอย่าง”
“แม้กระทั่งเรื่องที่โยนาห์อยู่ในท้องปลาสามวันสามคืนและไม่ตาย?” นักธุรกิจถาม
“ถ้ามันไม่จริง เวลาที่ยายขึ้นไปสวรรค์ เมื่อพบโยนาห์จะถามดูก็ได้” คุณยายว่า
ชายหนุ่มยังไม่ลดละ “ถ้าไม่เจอโยนาห์ในสวรรค์ล่ะ?”
“ถ้างั้นพ่อหนุ่มก็ถามเอาเองก็แล้วกัน” เธอตอบ
“???!!”
ไปฟังนอกบ้าน
สมเกียรติเพิ่งซื้อเครื่องคาราโอมาจากห้างแมคโคร ทำให้ดารณีมีชีวิตชีวาขึ้น เธอพยายามฝึกร้องเพลงทุกวัน แต่เธอสังเกตว่า ทุกครั้งที่เธอร้องเพลง สมเกียรติจะรีบออกไปยืนหน้าบ้าน จนกว่าเธอจะร้องเพลงจบแล้ว จึงค่อยกลับมา
ดารณี : คุณพี่นี่ดีจริงๆ ที่ออกไปยืนหน้าบ้านเพื่อจะฟังทดสอบว่าดาร้องเพลงเพราะหรือไม่ ใช่ไหมคะ?
สมเกียรติ : เปล่าหรอก ที่ผมออกไปยืนที่โน่น เพราะไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าผมกำลังทุบตีทำร้ายคุณ
ดารณี : ???!!

< ก่อนหน้า

ถัดไป >
เฮฮา..สาระ..ขัน
ชุดที่๑
ลูกโง่ สมเกติ์เป็นคนขี้เหนียว ไม่ว่าอะไรก็ตามถ้าสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ เขาจะทำทันที เขาได้ถ่ายทอดนิสัยนี้ให้สมกรลูกชายคนเดียวของเขาด้วย
วันหนึ่งหลังจากเลิกเรียน สมกรกระหืดกระหอบเหงื่อโชกกลับมาถึงบ้าน
สมเกติ์ : ไปทำอะไรมาล่ะลูก ดูซิเสื้อผ้าเปียกปอนหมด
สมกร : (ยิ้มพร้อมกับปาดเหงื่อ) ผมวิ่งตามรถเมล์ครับ ทำให้ผมประหยัดไปได้ ๑๐ บาท
สมเกติ์ : (มีอารมณ์โมโหขึ้นมาทันที) ไอ้ลูกโง่ ทำไมไม่วิ่งตามรถแท็กซี่ จะได้ประหยัดถึง ๗๐ บาท
ม้าศิษยาภิบาล
ทูกาเข้ามาทำงานในเมือง และเป็นสมาชิกของคริสตจักรสว่างจริง วันหนึ่งเขามีความจำเป็นต้อง
เดินทางกลับบ้านบนดอยสูง จึงยืมม้าของศิษยาบาลสรวงสรรค์ไป ศิษยาภิบาลบอกแก่ทูเอว่า “ม้าตัวนี้ต้องสั่งด้วยภาษาคริสเตียนว่า ‘ขอบคุณพระเจ้า’ มันจึงจะวิ่ง”
ทูกาขี่ม้าด้วยการพูดว่า “ขอบคุณพระเจ้า...ขอบคุณพระเจ้า” ยิ่งขอบพระคุณพระเจ้ามากเท่าใด ม้าก็วิ่งเร็วขึ้นมาเท่านั้น จนกระทั่งมาถึงหน้าผาแห่งหนึ่ง ทูกาดึงบังเหียนให้มันชะลอ แต่มันไม่ยอมหยุด เขานึกโมโหตนเองที่ลืมถามศิษยาภิบาลถึงคำสั่งหยุดม้า ขณะที่มันควบอย่างเร็วจี๋มาถึงริมเหว เขาจึงตะโกนขึ้นด้วยความตกใจว่า “อาเมน”
ทันใดนั้น ม้าหยุกกึกทันที!
ทูกาเอามือลูบอกตนเองพร้อมกับถอนใจ ที่รอดมาได้อย่างหวุดวิด เขาพึมพัมขึ้นว่า “ขอบคุณพระเจ้า”
เปลี่ยนหลอดไฟ

เปลี่ยนหลอดไฟ มีเรื่องเล่าว่า ถ้าให้คนโง่เปลี่ยนหลอดไฟ จะให้หนึ่งคนปีนขึ้นจับหลอดไฟ และให้อีกสามคนหมุน ถ้าให้แบ๊บติสต์เปลี่ยนหลอดไฟ จะให้หนึ่งคนขึ้นไปจับหลอดไฟ และตั้งอีกห้าคนเป็นคณะกรรมการ ถ้าให้เพนเตคอสเปลี่ยนหลอดไฟ จะให้คนหนึ่งปีนขึ้นไปจับหลอดไฟ และอีกห้าสิบคนร้องฮาเลลูยาสรรเสริญพระเจ้า!!
แค่ส่ายหน้าก็พอ

แค่ส่ายหน้าก็พอ! หญิงสาวพาร่างอันมีส่วนเกินข้าไปในคลีนิคเพื่อความงามแห่งหนึ่ง เธอต้องนั่งรอนานกว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้พบกับแพทย์เฉพาะทางที่มีชื่อเสียง “หมออยากจะแนะนำวิธีออกกำลังกายที่ได้ผลดีที่สุด” นายแพทย์เอ่ยขึ้นเมื่อมองเห็นร่างเทพธิดาช้าง คนไข้ยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ขอบคุณค่ะคุณหมอ ดิฉันเคยไปสถานฟิตเนส เคยกินยาลดความอ้วน และเคยไปให้หมอเลาะไขมันออก แต่ไม่นานมันก็กลับมาเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ” “หมออยากจะแนะนำวิธีลดความอ้วนภายในเวลาสองสัปดาห์” “ทำยังไงคะ?” หมอส่ายหน้าไปมา...พร้อมกับบอกคนไข้ว่า “ทำเพียงแค่นี้แหละ” (ส่ายหน้าไปมา) “แค่ส่ายหน้าไปมานี่นะหรือคะ” เธอถามด้วยความฉงน “ทำไมง่ายจัง” “ใช่ ง่ายๆแบบนี้แหละ เวลาเห็นอาหารมันๆก็ส่ายหน้า เห็นของหวานๆก็ส่ายหน้า” หมอว่า หญิงสาว “???!!”ข้อคิด : เพื่อสุขภาพดีฝ่ายวิญญาณ คริสเตียนจะต้องส่ายหน้าต่อบาปและเนื้อหนัง
การเปลี่ยนแปลง
ออสวอลด์ แซนเดอร์ เป็นนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก วันหนึ่งท่านไปเป็นวิทยากรในการสัมมนาแห่งหนึ่งในประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างช่วงการพักท่านได้ถามผู้เข้าร่วมประชุมคนหนึ่งว่า “ก่อนที่คุณมาเป็นคริสเตียนกับหลังจากเป็นคริสเตียนแล้ว ชีวิตมีความแตกต่างอย่างไรบ้าง?” “อ๋อ แตกต่างมากเลยครับ” ชายคนนั้นตอบ “ลองเล่าให้ฟังหน่อย” แซนเดอร์กระตุ้น “คืออย่างนี้ครับ ตอนก่อนที่จะมาเชื่อพระเจ้านั้น ผมตีเมียทุกวันเลย” “หลังจากนั้นล่ะ?” “เดี๋ยวนี้ผมตีเมียอาทิตย์ละครั้งเดียวเท่านั้น” แซนเดอร์ “???!!” ข้อพระคัมภีร์ ๑ คร. ๕.๑๗

Design:Ray

เคล็ดลับแต่ไม่ลับ แต่ จะหลับ

อุบัติเหตุ
สมชายเป็นศิษยาภิบาลที่มีชื่อเสียง แต่วันหนึ่งต้องประสบอุบัติเหตุจนสมองพิการ แพทย์จึงแนะนำให้ผ่าตัดเปลี่ยนสมอง คุณลินดาภรรยาของอาจารย์สมชายจึงซักถามถึงราคาค่างวด
“ถ้าสมองของศิษยาภิบาลจีนก็จะตกราว ๑ ล้านบาท” หมอตอบ “ถ้าสมองของศิษยาภิบาลญี่ปุ่นหรือเกาหลีก็ประมาณ ๒ ล้านบาท”
สีหน้าของคุณลินดาไม่สู้ดี แต่ยังตั้งใจฟัง
“ถ้าสมองของศิษยาภิบาลชาวอเมริกันก็ ๓ ล้านบาท” หมอว่า
“ถ้าเป็นสมองของศิษยาภิบาลไทยล่ะค่ะ?” เธอถาม
“โอ อันนี้แพงหน่อย คุณพอจะสู้ราคาได้ไหม?”
“ซักประมาณเท่าไหร่ค่ะ?”
“๑๐ ล้านบาทครับ” หมอบอกตัวเลขอย่างแม่นยำ
“โอโฮ ทำไมมันแพงขนาดนั้นค่ะ?” คุณลินดาตกใจ
“เพราะมันเป็นสมองที่ไม่ค่อยได้ใช้ครับ”
“???!!”
ทำเกินสั่ง

คุณวราภรณ์ได้คนรับใช้มาใหม่เมื่อสองวันก่อน เธอได้พยายามสั่งสอนว่า “นี่นังแจ๋ว เมื่อมาอยู่บ้านนี้จะต้องทำตามที่ฉันสั่งเท่านั้นนะ อะไรที่ไม่ได้สั่งห้ามทำเด็ดขาด นังแจ๋วก็รับปากเป็นอย่างดี วันหนึ่งมีแขกมาเยี่ยมคุณวราภรณ์ก็สั่งให้แจ๋วเอาน้ำมาเสิร์ฟ แต่เธอก็ยกเพียงแค่โถน้ำมาเท่านั้น “ทำไมไม่เอาแก้วมาด้วยล่ะ?” คุณวราภรณ์ดุแจ๋ว แจ๋วจึงรีบไปเอาแก้วมาเทน้ำเสิร์ฟอย่างลนลาน แต่ก็ถูกเจ้านายดุอีก “อ้าว นังแจ๋วเอาแก้วมา แต่ทำไมไม่เอาที่รองแก้วมาด้วย” วันต่อมา คุณวราภรณ์ไม่สบายจึงเรียกแจ๋วมาบอกว่า “ช่วยไปตามหมอที่ปากซอยมาให้ที” นังแจ๋วหายไปครึ่งวันก็กลับมา คุณวราภรณ์ถามว่า “แกหายหัวไปไหนมา บอกให้ไปตามหมอแค่ปากซอย หายไปตั้งหลายชั่วโมง?” “คือดิฉันไปหาหมอแล้ว แต่หมอไม่อยู่ จึงตามไปที่โรงพยาบาลค่ะ จากนั้นก็ไปจองห้องพักคนไข้ไว้เพื่อว่าคุณนายจะอาการหนักจะได้มีที่พัก จากนั้นดิฉันก็ไปมูลนิธิปอเต็กตึ้ง ติดต่อให้รถมารับศพ แล้วแจ๋วก็ยังเลยไปจองศาลาวัดธาตุทองเพื่อเตรียมพิธีเจ็ดวัน...นี่ค่ะ ได้ราคาแพจเก็จการเหมาจัดงานศพมาด้วย” คุณวรัญญา “???!!”
โธ่ อาจารย์ของเรา
คริสเตียนสามคนคือสมชาย สมศักดิ์และสมเกียรติได้ขึ้นไปที่สวรรค์ พวกเขาต้องพบกับเปโตรเพื่อรายงานชีวิตขณะที่อยู่ในโลก “สมชาย คุณรับใช้ได้อย่างซื่อสัตย์ เราจะมอบรถเบ็นซ์ให้” เปโตรก้มหน้าดูสมุดแห่งชีวิต“สำหรับสมศักดิ์ คุณก็ทำดีพอสมควร เราจะมอบโตโยต้าให้....สำหรับคุณสมเกียรตินี่ ความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฎ เราจะมอบยามาฮ่าให้” วันหนึ่ง ทั้งสามคนมาพบกัน ดูหน้าตาคุณสมเกียรติเศร้าสร้อย พวกเพื่อนๆจึงปลอบใจว่า “ไม่ต้องคิดมากเพื่อนเอ๋ย แม้ว่าได้รถเครื่องก็ดีกว่าไม่ได้” “มันไม่ใช่อย่างนั้น” สมเกียรติโบกไม้โบกมือ “เมื่อเช้านี้ผมไปพบอาจารย์วิทยาศิษยาภิบาลของโบสถ์เราโดยบังเอิญ” “แล้วเป็นไง แกสบายดีไหม?” สมชายรีบถาม “แหม อาจารย์คงจะขี่โรสรอยด์สิท่า” “ เปล่า..” สมเกียรติส่ายหน้า “ผมเห็นแกปั่นจักยานจนเหงื่อโชกเลย”

อ่านก่อน อย่าร้อนใจ

ห่านป่า Minnesota

เช้านี้เป็นวันอาทิตย์ คุณแซนดี้(Sandy)ได้กรุณาขับรถมาส่งพวกเราที่โบสถ์ New Life Church of Woodbury Minnesota ท่ามกลางลมพัดแรงและอากาศเย็น จะเรียกได้ว่าค่อนข้างหนาวสำหรับเราคนไทย (แต่เป็นหน้าร้อนของคนมินเนโซต้า) แต่ก่อนบริเวณนี้เป็นที่โล่ง มีสนามกว้าง ป่าไม้และเนินเขา มีหนองน้ำอยู่รายรอบ วันนี้เปลี่ยนไปมากเพราะมีตึกเตี้ยๆผุดขึ้น และมีอพาร์ตเมนท์หลายแห่ง ผมพยายามมองหาสิ่งที่เคยเห็นในอดีตใกล้บริเวณทะเลสาบ คือพวกห่านป่า(Geese) ก็ยังเห็นอยู่ประปราย เพื่อนของเราบอกว่า เดือนนี้ยังมีไม่มาก แต่เดือนหน้าจะเยอะขึ้น สัตว์จำพวกนี้อพยพหนีหนาวลงมาจากแคนาดาและล่องไปทางใต้เรื่อยๆ มันจะมาเป็นฝูงใหญ่ ร้องเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวไปทั่ว ดร. ดิค ไอแวนซ์ (Dr. Dick Iance) ผู้เป็นศิษยาภิบาลของมิชชันนารีที่นี่เล่าให้ฟังว่า ห่านพวกนี้กินจุและกินตลอดเวลา แต่มีลำไส้สั้น ดังนั้นพอกินเข้าไปนานก็ถ่ายออกมา กินไปขี้ไปก็เลยเลอะเทอะไปหมด ห่านป่ามีระบบสังคมที่ดีมาก มันจะอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ๆ ๕๐-๑๐๐ ตัว เวลาที่มันจะบินหนีหนาวไปไกลๆชนิดข้ามประเทศหรือทวีป มันจะขึ้นสูงและเริ่มแปรขบวนเป็นรูปตัววี (V) แบบแอโรไดนามิค เพราะการบินแบบนี้เป็นการแหวกอากาศ จะต้านทานการเสียดสีได้ดีกว่า บินได้เร็วกว่าและออกแรงน้อยกว่า จะมีห่านระดับหัวหน้าสองสามตัวบินนำ พวกนี้ต้องออกแรงมากหน่อย ส่วนพวกที่บินเกาะกลุ่มตามหลังจะประหยัดพลังงาน แต่มีหน้าที่ส่งเสียงร้องเชียร์ “เอิ๊ก...เอิ๊ก...เอิ๊ก” เท่านั้นเมื่อมันบินไปได้ระยะหนึ่ง ตัวนำหน้าเหนื่อยแล้วก็จะถอยกลับมาอยู่ข้างหลัง และให้ห่านป่าตัวอื่นขึ้นไปบินนำบ้าง สลับเปลี่ยนหมุนเวียนอย่างนี้เรื่อยไป ดังนั้น พวกมันจึงสามารถบินได้ระยะไกลนับพันๆกิโลเมตรโดยไม่ต้องหยุดพักเลย ที่น่าแปลกอีกอย่างหนึ่งคือ เมื่อมีห่านป่าตัวหนึ่งตัวใดเจ็บป่วยไม่สบาย มันก็จะบินลงมาพักที่หนองน้ำ โดยมีห่านป่าอีกตัวบินลงมาประกบคอยเป็นเพื่อนช่วยเหลือ อยู่ด้วยจนกระทั่งหายเป็นปกติ จึงจะบินไปสมทบกับพรรคพวกภายหลัง มีคนเล่าให้ฟังอีกว่า ในตอนกลางคืนเมื่อพวกมันหยุดพัก จะทำเป็นวงกลมโดยห่านตัวเล็กหรืออ่อนแอกว่าจะอยู่ตรงกลาง และโดยรอบๆจะประกอบด้วยห่านตัวใหญ่และแข็งแรง เท่านั้นไม่พอตลอดคืนอันหนาวเหน็บพวกมันยังมีการผลัดเปลี่ยนเวรกันเป็นยามเฝ้าดูแล ขณะที่ห่านทั้งฝูงกำลังนอนหลับพักผ่อนอย่างสบายอีกด้วย ข้อคิด พฤติกรรมแบบนี้ทำให้คิดถึงคริสตจักรของพระเจ้าในปัจจุบัน ที่เราคริสเตียนควรจะเลียนแบบนะครับ ประการแรก เราน่าจะกินอาหารฝายจิตวิญญาณ(พระคัมภีร์)ของพระเจ้ามากๆ พอกินเข้าไปแล้วไม่ต้องกักตุนไว้ แต่ก็รีบถ่ายเทออกมา นั่นคือแบ่งปันพระวจนะนั้นแก่คนอื่นๆประการที่สอง การทำงานของคริสเตียนน่าจะเป็นทีมแบบแอโร่ไดนามิค กล่าวคือมีกลุ่มผู้นำและผู้ตามปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า ก้าวไปในทิศทางเดียวกัน บางคนจะอยู่ข้างหน้าและต้องเผชิญกับปัญหามากมาย บางคนจะอยู่ข้างหลังที่จะคอยส่งเสียงร้อง(อธิษฐาน)สนับสนุน ประการที่สาม ไม่มีใครจะยืนหยัดตลอดไปในการงานของพระเจ้าได้ จะต้องมีการสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน “มีตัวตายและตัวแทน” เมื่อโมเสสลงไปก็มีโยชูวาก้าวขึ้นมาแทน เมื่อเอลียาห์ลงไปก็มีเอลีชาก้าวขึ้นมา เมื่อเปาโลลงไปก็มีทิโมธีก้าวขึ้นมาแทน ประการสุดท้าย ผู้ที่เข็มแข็งฝ่ายวิญญาณมากกว่ามีหน้าที่จะต้องปกป้องคุ้มครองคนที่จิตวิญญาณอ่อนแอหรือผู้เชื่อใหม่ “รักษาฝูงแกะของพระเจ้า” ให้รอดพ้นจากการตกเป็นเหยื่อของพวกหมาป่า

< ก่อนหน้า

ถัดไป >

อ่านดีๆมีสาระ

สูตรยาแก้อกหัก! ความรักของพระเจ้า ๓๐ กรัม คำอธิษฐาน ๒๐ กรัม ความอดทน ๑๐ กรัม การให้อภัย ๑๐ กรัม น้ำตาของพ่อแม่ ๑๐ กรัม น้ำใจเพื่อนที่ปรารถนาดี ๕ กรัม ความเข้มแข็ง ๑๐ ช้อนชา รากแห่งเกียรติและศักดิ์ศรี ๑๐ กรัม ใบเจ็บแล้วจำ ๕ ใบ (เลือกเอาใบที่ใหญ่และสมบูรณ์) ความเข้าใจในรักลวง ๕ ช้อนชา สติสัมปชัญญะ ๑๕ กรัม น้ำล้างตาให้สว่าง ๒ ฝา ความรักต่อตนเองขนาดเท่ากำปั้น(หัวใจ) วิธีปรุง นำเอาสิ่งต่างๆที่กล่าวมาแล้ว ล้างให้สะอาด และใส่ลงในเครื่องบด (ถ้าไม่มีใช้ครกตำเอาก็ได้) ๓ นาทีจากนั้นนำไปตั้งบนเตาไฟ เคี่ยวให้จนน้ำงวด ยกลงจากเตาและรอให้เย็น แล้วเก็บไว้ในที่ความเย็น ๑๐-๑๕ องศาเซนเซียส วิธีใช้ รินใส่แก้วรับประทานวันละ ๓ ครั้งก่อนอาหาร เป็นเวลา ๒ สัปดาห์ และตระหนักว่า เขาหรือเธอคนนั้นไม่ใช่รถด่วนขบวนสุดท้าย!

ฟังกันเอาไว้ให้ดี

บทเรียนจากชายแปลกหน้า ศิษยาภิบาลเรียนบทเรียนหนึ่งด้วยความรักจากชายแปลกหน้าผู้มาเยือนคริสตจักร วันหนึ่งศิษยาภิบาลเดินทางผ่านคริสตจักรของเขาเองในตอนเที่ยงจึงคิดจะแวะดู สักนิดว่าจะมีใครมาอธิษฐานในคริสตจักรไหม ทันได้นั้นเอง ประตูหลังก็เปิดออกพร้อมกับชายคนหนึ่งเดินเข้ามาตามทางเดิน ศิษยาภิบาลหน้านิ่วถมึงทึงด้วยความไม่พอใจ ชายคนนี้ไม่ได้โกนหนวดเครา เสื้อเชิ้ตออกจะเก่าซอมซ่อ เสื้อนอกก็ขาดวิ่นและหลุดลุ่ย เขาคุกเข่าลงและก้มศีรษะจากกนั้นก็ลุกขึ้นและเดินจากไป หลายวันต่อๆ มา ตอนเที่ยงหมอนี่ก็โผล่มาที่คริสตจักรอีกเป็นประจำ ในแต่ละครั้งเขาจะมาคุกเข่าอยู่สักครู่หนึ่ง มีกล่องอาหารกลางวันบนหน้าตัก แน่นอน! ศิษยาภิบาลตั้งข้อระแวงว่าหมอนี่คงเป็นพวกหัวขโมยแน่ๆ!!! เขาตัดสินใจเข้าไปคุยกับชายผู้นี้ "คุณมาทำอะไรที่นี่หรือ?" ชายแก่จึงเล่าให้ฟังว่า เขาทำงานที่โรงงานซึ่งตั้งอยู่บนถนนสายนี้ มีเวลาพักเที่ยงครึ่งชั่วโมงและเวลาเที่ยงเป็นเวลาอธิษฐานเพื่อเขาจะได้รับ เรี่ยวแรงและฤทธิ์เดช ผมอยู่ได้เพียงชั่วครู่เพราะโรงงานอยู่ไกลมาก เมื่อผมคุกเข่าลงและพูดกับองค์พระผู้เป็นเจ้าผมจะบอกอย่างนี้ว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า ผมเข้ามาอีกครั้งเพื่อจะบอกพระองค์ว่าผมมีความสุขมากแค่ไหนตั้งแต่วันที่เรา ได้รู้จักกัน และพระองค์ทรงยกโทษบาปของผม" "ผมอธิษฐานไม่ค่อยเก่งนัก แต่ผมคิดถึงพระองค์ทุกวัน พระเยซู… ผม - จิมมารายงานตัววันนี้" ศิษยาภิบาลรู้สึกกระอักกระอวนกับความเขลาของตน จึงบอกจิมไปว่าเขาสามารถมาที่นี่และอธิษฐานได้ทุกเวลา ครั้นได้เวลาจากกันจิมส่งยิ้มให้และกล่าว "ขอบคุณ" พร้อมกับเร่งรีบไปที่ประตู ศิษยาภิบาลคุกเข่าตรงแท่นข้างหน้าอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน หัวใจที่เย็นชาของเขาหลอมละลายและอบอุ่นขึ้นด้วยความรัก …เขาได้พบพระเยซูที่นั่น ในขณะที่น้ำตาไหลพรากอยู่นั้น ภายในหัวใจของเขาได้อธิษฐานตามอย่างเฒ่าจิมที่ว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า ผมเข้ามาอีกครั้งเพื่อจะบอกพระองค์ว่าผมมีความสุขแค่ไหนตั้งแต่วันที่เราได้ รู้จักกันและพระองค์ทรงยกโทษบาปของผม ผมอธิษฐานไม่ค่อยเก่งนักแต่ผมคิดถึงพระองค์ทุกวัน พระเยซู…นี่ผมเองมารายงานตัววันนี้" บ่ายวันหนึ่งศิษยาภิบาลเริ่มสังเกตว่าจิมไม่ได้มาเหมือนเคย และเวลาผ่านไปอีกหลายวัน โดยที่จิมไม่ได้ปรากฏตัว เขาเริ่มรู้สึกวิตก ที่โรงงานศิษยาภิบาลมาถามหาชายชราชื่อ จิม และได้ความว่าเขาป่วย คนที่โรงงานต่างก็เป็นห่วงกับอาการของจิม แต่เขากลับทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ ช่วงสัปดาห์ที่จิมอยู่ด้วยนั้นนำการเปลี่ยนแปลงมาอย่างถ้วนทั่ว รอยยิ้มของเขากับความปิติยินดีที่เป็นเหมือนโรคระบาด ผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปคือรางวัลใหญ่ของเขา หัวหน้าพยาบาลไม่อาจเข้าใจได้ว่าเหตุใดจิมจึงดีใจอยู่เสมอทั้งที่ไม่มีดอกไม้เยี่ยมไข้ โทรศัพท์หรือบัตรอวยพร ไม่มีใครสักคนมาเยี่ยม ศิษยาภิบาลยืนอยู่ข้างเตียงเขาฟังเสียงรำพันของพยาบาลผู้เป็นห่วง โอ้…จิมไม่มีเพื่อนมาแสดงความห่วงใย ไม่มีใครที่เขาจะพึ่งพิงได้ แต่น่าแปลกใจ เฒ่าจิมอธิบายขึ้นด้วยรอยยิ้มละไมของชัยชนะ "คุณพยาบาลไม่เข้าใจ เธอไม่รู้หรอกว่า ในครู่ใหญ่ๆ ของทุกเที่ยงวันพระองค์อยู่ที่นี่ เพื่อนรักของผม คุณเห็นไหมว่าพระองค์กำลังนั่งอยู่ ทรงกุมมือผมไว้ โน้มเข้ามาใกล้และบอกว่า เราเข้ามาอีกครั้ง…จิม เพื่อบอกเจ้าว่าเรามีความสุขมากแค่ไหนตั้งแต่วันที่เราไ ด้รู้จักกัน และเรายกโทษบาปของเจ้า เรารักที่จะฟังเจ้าอธิษฐานเสมอ และเราคิดถึงเจ้าทุกวัน จิม…เราคือเยซู มารายงานตัวในวันนี้" ผมได้อ่านเรื่องนี้จากอีเมลที่เพื่อนคนหนึ่งส่งมาให้และเกิดอาการอย่างเดียว กับศิษยาภิบาลผู้นี้ ผมร้องไห้และอธิษฐานกับพระเยซูด้วยคำอธิษฐานของลุงจิม ผมลืมไปว่า "ผมมีความสุขมากแค่ไหนตั้งแต่วันที่ผมกับพระเยซูได้รู้จักกัน" มิตรภาพของพระองค์เป็นสิ่งเดียวในชีวิตที่ให้ความสุขแท้กับผมและจะติดตามผม ไปไม่ว่าผมจะทุกข์ยาก เจ็บป่วย หรือล้มเหลว ตั้งแต่เริ่มเป็นคริสเตียนนั้นผมได้ผ่านความเจ็บปวดใหญ่น้อยมานับไม่ถ้วน มีบางครั้งก็สาหัสจนผมแทบไม่เชื่อว่าจะผ่านมาได้ แต่มิตรภาพของพระองค์ทำให้ไม่มีความทุกข์แท้สำหรับผม ความทุกข์ทั้งหมดล้วนไม่จีรังเมื่อมันถูกนำมาปะทะกับความสุขของการได้รู้จัก พระเยซู "องค์พระผู้เป็นเจ้า ผมเข้ามาหาพระองค์อีกครั้งเพื่อจะบอกพระองค์ว่าผมมีความสุขมากแค่ไหนตั้งแต่ วันที่เรารู้จักกันและพระองค์ยกโทษบาปของผม ผมอธิษฐานไม่ค่อยเก่งนัก แต่ผมคิดถึงพระองค์ทุกวัน พระเยซู…นี่ผมเอง มารายงานตัววันนี้" โดย Unknown

คริสเตียนไทยรับใช้พระเจ้า Thai Christian Serve God (TCSG)

ขอบคุณสำหรับเรือ

ลุยช่วยคนที่น้ำท่วม

ช่วยเหลือพี่น้องที่น้ำท่วม

อย่าลืมอธิษฐานเผื่อพี่น้องอาข่านะครับ

ภาพนี้ให้บทเรียนอะไรบ้าง

หัวเหดหยัง

การเลือกคู่ครองที่ถูกต้อง

วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ค่ายอนุชน

ไม่มีความคิดเห็น:

เกี่ยวกับฉัน

ได้โอกาสเป็นพยานเลย

ทายซิใครหนอ

น้องน้ำจ๋า

ลูก อ. พี่อาง-อร

ดูแล้วอย่าเขินนะ

อาดัมรักน้องซ่าราห์ครับ

พระเยซูคือพระเมษโปรดก

ปฐมกาล3:15

คุณคือดาวนำทางคนบาปไปถึงพระเยซู

ประทานพระผู้ช่วยให้รอด

พระเยซูไม่ใช่แค่ช่างไม้

คนเลี้ยงแกะได้รับข่าวดี

คลอดในคอกสัตว์อันตำต้อยและสกปรก

เดินทางไปเบธเลเฮม

ทูตสวรรค์แจ้งข่าวแก่มารย์

พระผูช่วยให้รอดของโลก

ระวังก่อนจะทำบาป

พระเยซูชนะซาตาน

ภาพพระเยซูสมัยโมเสส

เรารักกันและกัน

เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดี

พระเยซูรักหนูไหม?

ค่ายพัทยา-Pattaya camp 43

ค่ายพัทยา43

ค่ายพัทยา43

ค่ายพัทยา43

ค่ายพัทยา43

ค่ายพัทยาครั้งที่43

ค่ายพัทยา43

ค่ายพัทยาครั้งที่ 43 Camp

อธิษฐาน-prayer Rick&Family

สำรวจกัมพูชา

สำรวจงานกัมพูชา 27-27 July 09

สำรวจงานกัมพูชา

อ.โฮมส์สุดหล่อ และมาดามสุดสวย

God want to make you now

Moses

Moses

Moses

Moses

Moses

เราจะไม่พรากจากกัน

เคียงบ่าเคียงไหล่

เดินตามพ่อ

พระเยซูทรงเป็นแบบอย่างของผู้รับใช้

พี่น้อง จ. สกลนคร ( อ.สุรสิทธิ์ )

พี่น้องกะเหรี่ยง จ. แม่ฮ่องสอน

ตอนนี้ฝึกงานที่แม่ฮ่องสอนครับ (ดล)

กาแฟแก้วนี้ไม่ต้องใส่น้ำตาลแล้ว

ครอบครัว อ. ประคอง

สนใจแต่งานไม่สนใจหนุ่มๆหรือจ๊ะ

หล่อจริงๆๆๆๆๆเลย

คู่สร้างคู่สม

ฟรั่งดอง บักสีดามั่ง

ใครก็ไม่รู้ จะถามใครดีละ

ถามจริงมีหรือยัง แฟนนะเดี๋ยวซื้อให้

คนสว่าง เพราะว่าเป็นความสว่าง

พี่ป้าพเยาว์มีลูกเยอะแต่ไม่มีแฟน

หัวใจยังว่าจะมีใครบ้างจับจอง

ครอบครัวตัวอย่าง คนใต้ใจดี

คู่นี้มีลุ้น แต่งเถอะเดี๋ยวก็รู้ นรกมีจริง

สาวสวยและโสดจ๊ะ กำลังรออยู่

สวยบวกหล่อเสมอ (ทาสผู้สัตย์ซื่อ)

ดูกัน จะ จะ ไผ่เป็นไผ่เจ้า หล่อแบบธรรมชาติ

ยังไง ก็ หล่ออยู่ดี

สามหล่อ เป็นพ่อใครหนอ

วันวานยังหวานอยู่ คู่รักคู่รถ

ข่าวดัง ป้าพี่เป็ดมีแฟนหล่อไปหมดเลย